โยม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ อย่างที่หลวงตาเคยสอนมาตลอดว่า "ผู้พูด ผู้พากษ์ มันพูดไม่หยุดหรอกถ้ายังไม่ตาย" แต่ก่อนไม่เคยเห็นชัดเจนแบบนี้เลยเจ้าค่ะ เพราะมัวแต่ไปเป็นมันอยู่ มัวแต่หลงสังขาร และไม่ค่อยมีสติเจ้าค่ะ หนูเพียรปฎิบัติแบบที่หลวงตายกตัวอย่างว่า "สติ" เปรียบเหมือนเจ้านาย ที่สั่งให้จิตซึ่งเปรียบเหมือนลูกจ้าง คอยทำงานคือ "พุทโธ" ไว้นะ การบริกรรมทำให้เห็นชัดเจนว่า มันพูด มันพากษ์ไม่หยุดจริง ๆ เจ้าค่ะ ดูคลิปวีดีโอ เรื่อง "ความจริงของสิ่งไม่เที่ยง" ที่หลวงตาส่งมาวันนี้ แล้วย้อนกลับมาดูตัวเรา สำหรับหนูแล้วเรื่องของรูปกายมันปล่อยวางได้ง่ายกว่า หมายถึงใจมันยอมรับได้ง่าย กว่าเรื่องจิตวิญญาณ ความคิด ความรู้สึก หมายถึงว่า พอสังขารมันปรุงอะไรขึ้นมา ถ้ามันจำได้มันเป็นตัวเราทุกครั้งเลยเจ้าค่ะหลวงตา ก็เพียรพยายามสอนใจตัวเอง (มีเราเข้าไปแทรกแซงอีกแล้วเจ้าค่ะ) ว่ามันไม่มีเรามาแต่แรก แต่ใจจริง ๆ มันยังไม่ยอมรับ มันเป็นแค่ "เข้าใจ" เจ้าค่ะ ก็ได้แต่รู้ว่าไม่ยอมรับ อยากให้ยอมรับยิ่งไม่ยอมรับ เพราะมีเรายังอยากอยู่เจ้าค่ะ เพียรมีสติรู้อยู่เจ้าค่ะหลวงตา กราบขอหลวงตาโปรดเมตตาชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ หลวงตา : มันมีตัวเรายืนพื้นไว้ในใจรอความหวัง ความปรารถนา ความสำเร็จ *****ธรรมะ หรือ นิพพาน คือ ได้แต่ "รู้ในปัจจุบัน" (คือ รู้ทุกอย่าง ไม่ติดยึดแม้แต่อย่างเดียว ไม่ติดยึดทั้งสิ่งที่ถูกรู้ และ ผู้รู้) *****แต่รู้แล้วอย่างนี้ ก็หมายไว้ผิดว่า ถ้าสักแต่ว่ารู้ หรือ แค่รู้ในปัจจุบันได้ “เราจะนิพพาน” โยม : คำตอบของหลวงตา หนูเหมือนโดนตีกะโหลกหนา ๆ ด้วยไม้กระบองที่หลวงตาส่งมาเลยเจ้าค่ะ หมอไม่รับเย็บแล้วเจ้าค่ะ ยังมีความอยาก ความปรารถนาความสำเร็จ มีตัวเรายืนพื้นอยู่เลยเจ้าค่ะ มันก็รู้อยู่ว่าเราทำอะไรไม่ได้ ที่บอกหลวงตาว่ามันเป็นตัวเราทุกครั้ง ก็เพราะอยากจะให้มันไม่เป็นตัวเรา หลวงตาก็สอนอยู่ว่าจะไปทำให้มันไม่เป็นไม่ได้ ใจเขาเป็นของเขาเอง เพียรมีสติเจ้าค่ะ หลวงตา : นิพพาน คือ ความรู้ (ไม่มีตัวตนของผู้รู้ จึงไม่มีตัวตนของผู้ยึด) ในปัจจุบันขณะ *****แล้วจะมีตัวเรา เพียรมีสติเพื่อตัวเราจะนิพพานอีกหรือ??? โอวาทธรรมจากปุจฉาวิสัชนา16 กุมภาพันธ์ 2563 หมายเหตุ : อ่านโอวาทธรรมที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อความถึงใจ "ความจริงของสิ่งไม่เที่ยง"https://timeline.line.me/post/_df9A9fT_Rv2xk3vB3rw1dMHhgl-EMiEl_lUPj2k/1158185189207063260 ~~~~~~~~~~~~~~~