หลวงตาณรงศักดิ์ ขีณาลโย

  • หน้าหลัก
  • สื่อธรรมะ
    • หนังสือธรรมะ
    • เสียงธรรม
      • เสียงธรรมรายปี
      • ไฟล์เสียงจัดชุด
    • CD
    • e-Book ปุจฉา-วิสัชนา
  • ปุจฉา-วิสัชนา
  • ภาพธรรม
  • วิดีโอธรรม
  • ธรรมทัศน์
  • ธรรมถึงใจ
  • ธรรมโอวาท
    • โอวาทธรรม
      • โอวาทธรรม 60-61
      • โอวาทธรรม 62
        • โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 62
        • โอวาทธรรม เม.ย.- มิ.ย. 62
        • โอวาทธรรม ก.ค. - ก.ย. 62
        • โอวาทธรรม ต.ค. - ธ.ค. 62
      • โอวาทธรรม 63
        • โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 63
        • โอวาทธรรม เม.ย. - มิ.ย. 63
        • โอวาทธรรม ก.ค. - ก.ย. 63
        • โอวาทธรรม ต.ค. - ธ.ค. 63
      • โอวาทธรรม 64
        • โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 64
      • โอวาทธรรมถึงใจ
    • ปกิณกธรรม
    • ประชาสัมพันธ์สื่อธรรม
    • โอวาทธรรมชุด
  • Other Languages
    • English
    • Deutsch

วิญญาณธาตุ กับ วิญญาณขันธ์ ตอนที่ 1 "ใจ" ไม่ใช่วิญญาณขันธ์

 โอวาทธรรม 63 Q1 44

 

 

หลวงตา : การรู้อะไรถ้ารู้ได้ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ มันรู้ด้วย "วิญญาณขันธ์" เพราะว่าการรู้จะรู้เกินกว่าตาหูจมูกลิ้นกายใจไม่ได้

 

โยม 1 : ครับหลวงตา ขณะที่วิญญาณขันธ์รับรู้ ตัว "วิญญาณธาตุ" หรือ "ธาตุรู้" ก็รู้ไปพร้อมกันหรือเปล่าครับ?

 

หลวงตา : ตัววิญญาณธาตุใช่มั้ย?

มันมีอวิชชาหรือไม่มีอวิชชา ถ้ามันมีอวิชชาอยู่ มันคือไปยึดในสิ่งที่วิญญาณขันธ์ไปรู้

 

โยม 1 : ถ้าสมมุติมันไม่มีอวิชชา

 

หลวงตา : ถ้าไม่มีอวิชชา มันก็คือว่าวิญญาณขันธ์น่ะรู้ แต่ไอ้เนี่ยมันรู้แก่ใจ มันได้แต่รู้แก่ใจว่ามันไม่ได้ยึด มันเป็นธาตุรู้ที่ว่างเปล่า เงียบ สงบ สงัด มันไม่ปรุงแต่ง ไม่กระเพื่อม ไม่ไหวตัว

มันรู้จักตัวมันเองแค่นั้นแหละ... มันรู้จักตัวมันเอง

 

"วิญญาณขันธ์" คือมันรู้ตามทวาร ตาหูจมูกลิ้นกายใจ แต่ "วิญญาณธาตุ" ที่ไม่มีอวิชชา คือมันหายโง่ มันฉลาด มันเป็นความรู้ฉลาด ฉลาดไม่ได้หมายถึงว่า ฉลาดเล่าเรียนเขียนอ่าน แต่ฉลาดคือรู้จักตัวของตัวเอง รู้จักใจว่าเป็นธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง ภพนี้เป็นภพสุดท้าย ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ภพชาติหน้าใหม่ไม่มี การยึดถือไม่มี

 

งั้นการรับรู้อะไรทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ มันจะไม่ยึดถือ มันรู้ว่า สิ้นการยึดถือแล้ว

 

มันเป็นความรู้ที่เป็นปัญญา เป็น "ปัญญาวิมุตติ"

 

~~~~~~~~~~~~~~~

 

โยม 1 : ครับ เรียนถามหลวงตาอย่างนี้ครับว่า ในขณะที่เรารู้เนี่ยครับ ตัววิญญาณขันธ์เขารับรู้ ขณะเดียวกันวิญญาณธาตุหรือธาตุรู้ก็รับรู้

แล้วตัวธาตุรู้นี่ก็รู้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เขา

 

หลวงตา : สังขารไม่ใช่เขา... ถ้าไม่มีอวิชชานะ! ถ้ามีอวิชชาความรู้ตรงนี้มันไม่มีหรอก มันยึดไปเลย มันยึดพร้อมไปกับการรู้เลย

 

~~~~~~~~~~~~~~~

 

โยม 1 : ครับ แต่ความรู้ที่รู้ คือตัววิญญาณธาตุเองก็รับรู้สิ่งที่วิญญาณขันธ์รับรู้ด้วยมั้ยครับ?

 

หลวงตา : ไม่... รู้ตามทวารนี่มันเป็นวิญญาณขันธ์รู้ แต่ธาตุรู้เวลาไม่มีอวิชชา... มันรู้ว่ามันไม่ได้ยึด

 

สมมุติว่า… เห็นหลวงตา ตาเห็นหลวงตา คือตาก็เห็น วิญญาณขันธ์รู้ แล้วเจตสิก (เวทนา สัญญา สังขาร ) ก็จำได้ว่านี่คือหลวงตา แต่ใจน่ะมันรู้แก่ใจว่าไม่ได้ยึดหลวงตา "ยึด" หรือ "ไม่ยึด" มันรู้แค่นั้นเอง

 

ที่รู้หลวงตา คือวิญญาณขันธ์รู้หลวงตา "เจตสิก" จำได้ว่าหลวงตาเป็นใคร แต่ "วิญญาณธาตุ" คือมันได้แต่รู้แก่ใจ รู้ออกมาจากใจ ว่าไม่ได้ยึดอะไรไม่ได้ยึดหลวงตา แต่ถ้ายึดมันก็คือยึดเลย ส่วนรู้ก็รู้ว่านี่หลวงตา แต่ "วิญญาณธาตุที่มันบวกอวิชชา" มันยึดเลย มันทำหน้าที่ยึดอย่างเดียว

 

เราเข้าใจว่ามันทำงานซ้อน ซ้อนวิญญาณขันธ์ มันไม่ได้ทำงานซ้อน มันมีแต่ยึดหรือไม่ยึด มันรู้แจ้งว่ามันยึดหรือไม่ยึด ถ้ามันยึดก็คือยึดเลย

 

ถ้าไม่ยึดมันก็เหมือนพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทั้งหลาย "ได้แต่รู้ แต่ไม่มีผู้ยึด"

 

~~~~~~~~~~~~~~~

 

โยม 1 : ถ้ามันยึดเลย ธาตุรู้ก็เป็นวิญญาณขันธ์ไปเลยหรือเปล่าครับ?

 

หลวงตา : มันเป็นวิญญาณขันธ์ไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ก็มีขันธ์แต่ไม่มียึด คือขันธ์ห้าก็ทำงานไป แต่ใจน่ะไม่ยึดทั้งสังขารแล้วไม่ยึดใจด้วย นั่นคือ "ธาตุรู้ที่ไม่มีอวิชชา" คือไม่ยึดทั้งสังขาร ไม่ยึดทั้งใจที่เป็นวิสังขาร

 

งั้นจะบอกว่าถ้าไม่ยึดแล้ว รู้นี้มันไปทำงานร่วมกับวิญญาณขันธ์ แต่วิญญาณขันธ์เนี่ยพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ที่ท่านไม่มีอวิชชาแล้ว ท่านไปรู้ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ ถ้ามันไปทำงานร่วมกัน คือว่าการรู้ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจมันดับ มันเกิดดับ พอเวลาพอสิ้นอายุขัยไอ้เนี่ยดับ แต่รู้นี้ (ธาตุรู้)ไม่ดับนะ มันเป็นอิสระต่อกัน

 

รู้นี่คือมันรู้ว่าการรับรู้ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจจะดับแล้ว ๆ ๆ มันแค่รู้ว่าจะดับแล้ว การรับรู้นี่จะดับ เพราะว่าตอนจะตาย ลมหายใจที่ปรุงแต่งกายจะดับ แล้วก็จิตที่มีความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ความรู้สึกตัวจะดับแล้ว การรับรู้ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ บัดนี้จะดับแล้ว ๆ

 

"ความรู้" ว่าทุกส่วนจะดับแล้วแต่ไม่ยึดถืออะไร รู้ว่าไม่ยึดถือไม่กังวล ความรู้นี้เป็นอมตะ แต่ไม่ใช่ไปรับรู้โดยไม่ยึดแต่ไปทำหน้าที่รับรู้ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ ไอ้ที่รับรู้ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจอันนั้นดับนะ อันนั้นเป็นธาตุเกิดดับ

 

เมื่อก่อนหลวงตาก็เคยเข้าใจอย่างโยม เข้าใจว่าพอวิญญาณมารวมกับดินน้ำลมไฟแล้วเกิดเป็นขันธ์ห้า แล้วมันทำงานซ้อนกับวิญญาณขันธ์ หลวงตาเคยเข้าใจแบบโยม พอมาเกิดขึ้นที่ใจว่า… เมื่อใจไม่ยึดแล้ว ขันธ์ห้ายังทำงานตามปกติ แต่ใจมันไม่ได้ส่งออกไปรับรู้ทางอายตนะ

 

มันรู้ว่าการรับรู้ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ คือวิญญาณขันธ์ แต่ใจมันเหนือขึ้นไป คือมันรู้ว่าการรับรู้ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจในปัจจุบันขณะ... ไม่มีผู้ยึดถือ มันเป็นความรู้คนละอันกัน แต่ไม่ใช่ว่าไปรู้รูป รู้เสียง รู้กลิ่น รู้รส แต่มันรู้ว่าการรู้รูป รู้เสียง รู้กลิ่น รู้รส ที่มันรู้โดย "วิญญาณขันธ์" มันไม่ยึดถือ

 

มันไม่ยึดถือสิ่งที่ถูกรู้ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะธรรมารมณ์ที่ถูกรู้ มันไม่ยึดถือผู้รู้... ผู้รู้นี้มันจึงไม่ใช่ผู้รู้แจ้ง เพราะฉะนั้น "ใจ" มันเป็นผู้รู้แจ้งที่สิ้นอวิชชา... ความรู้ที่สิ้นอวิชชา

 

มันรู้แจ้งว่ารูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อายตนะภายนอกเป็นสิ่งที่ถูกรู้ ไม่มีคนยึด ผู้รู้มันก็ไม่ยึดอีก งั้นผู้รู้นี้มันเป็นผู้รู้ ผู้พากษ์ ผู้รู้ผู้พูดผู้พากษ์ มันเป็นวิญญาณขันธ์ทำงานร่วมกับเจตสิก

 

แต่ธาตุรู้ที่ไม่มีอวิชชา มันรู้ว่าอายตนะภายนอก อายตนะภายใน ทั้งผู้รู้...ไม่มีคนยึด มันรู้แต่เพียงอันนี้ว่ายึดหรือไม่ยึด

 

~~~~~~~~~~~~~~~

 

โยม 1 : แต่ไม่ได้รับรู้สิ่งที่วิญญาณขันธ์รับรู้ใช่มั้ยครับหลวงตา?

 

หลวงตา : ไม่ได้รับรู้หรอก การรับรู้นั้นน่ะพอตายแล้วดับหมด การรับรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ พอตายแล้วดับ แต่ธาตุรู้นี้ไม่ดับนะ มันคนละตัวกัน เพราะธาตุรู้ไม่เกิดไม่ดับ มันเป็นอมตะ

 

~~~~~~~~~~~~~~~

 

โยม 2 : ในตัวเรา สิ่งที่จะรับรู้การทำงานของวิญญาณขันธ์ทำโน่นทำนี่ได้ คือใช้ธาตุรู้ตัวที่เป็นผู้รู้ตัวปลอม ส่วนธาตุรู้ หรือผู้รู้ตัวจริง มันจะทำหน้าที่แค่รู้ว่ายึดหรือไม่ยึดในการทำงานนี้แค่นั้น แต่มันไม่มีหน้าที่มารู้ว่าร่างกายนี้มันปรุงว่ายังไงใช่มั้ยคะ?

 

หลวงตา : ใช่ ๆ คือถ้าอย่างของพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัวนี่ชัดเจนมากเลย บอกว่าสิ้นยึดขันธ์ห้าแล้วไม่มีอวิชชาแล้วนะ สิ้นยึดขันธ์ห้าแล้วก็จะเป็นใจ ท่านว่าใจไม่ใช่ขันธ์ห้าขันธ์ห้าไม่ใช่ใจ… นี่ชัดมาก

 

เพราะว่าพอสิ้นยึดขันธ์ห้าแล้วเหลือแต่ใจ แล้วก็ท่านยังบอกว่าใจที่สิ้นยึดขันธ์ห้าแล้วมันยังไม่จบ แม้แต่สิ้นยึดขันธ์ห้า แล้วเป็นใจ จะเห็นว่าใจน่ะหมายถึง “จิตเดิมแท้” หรือธาตุรู้เนี่ยก็ยังไม่บริสุทธิ์ เพราะใจหรือจิตเดิมแท้หรือธาตุรู้ ยังมีอวิชชาอยู่ ก็จะหลงยึดถือใจเสียเอง ยึดถือว่าเป็นใจเรา หรือใจของเราบริสุทธิ์ จะยังสงวนรักษาใจ

 

เพราะว่าท่านบอกว่าในทางปฏิบัติยังไม่บริสุทธิ์ แต่ในทางพระสูตรเขาจบแค่นี้ แต่ท่านบอกปฏิบัติจริง ๆ พอสิ้นยึดขันธ์ห้ายังไม่นิพพาน... อันนี้ชัดมากเลย

 

จะเห็นว่าใจ หรือธาตุรู้ หรือจิตเดิมแท้ไม่ใช่ขันธ์ห้า พอสิ้นอวิชชาปุ๊บ ไม่ใช่ขันธ์ห้า แต่ถ้ามีอวิชชาอยู่มันจะไปทำงานร่วมกับขันธ์ห้า คือ มันทั้งรู้ทั้งยึดไปในตัวเอง แต่พอสิ้นยึดปุ๊บ! มันกลายเป็นใจไม่ใช่ขันธ์ห้า

 

เพราะงั้นวิญญาณขันธ์ ก็คือวิญญาณขันธ์
แต่ "ใจ" ... ไม่ใช่ขันธ์ห้า

 

~~~~~~~~~~~~~~~

 

หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง***
200309A-1 วิญญาณธาตุกับวิญญาณขันธ์ ตอนที่ 1
9 มีนาคม 2563

 

ฟังจากยูทูป :
https://youtu.be/C9Mgt6755dM

 

หมายเหตุ :

*** ปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจลึกซึ้งโดยองค์หลวงตา

อ่านโอวาทธรรมองค์หลวงตามหาบัว เพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

เรื่อง "วิญญาณในขันธ์ห้า กับ ปฏิสนธิวิญญาณฯ"

http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1534&CatID=1

 

เรื่อง "ขันธ์ห้าต่างหากจากจิต"

http://www.openbase.in.th/node/3018

 

 

~~~~~~~~~~~~~~~

 

 

Tweet
  • Social sharing:
  • Add to Facebook
  • Add to Delicious
  • Digg this
  • Add to StumbleUpon
  • Add to Technorati
  • Add to Reddit
  • Add to MySpace
  • Like this? Tweet it to your followers!

Related items

  • 250307B-4 อวิชชาในผู้รู้
  • 250307B-3 เรียนรู้ในเหตุ เข้าใจในผล
  • 250307B-2 พุทธะ ธรรมะ สังฆะ อยู่ที่ใจ
  • 250307B-1 เมื่อไม่ยึดถือก็ไม่ต้องปล่อยวาง
  • 240914A-5 เงื่อนไขบังธรรมเพราะความเข้าใจผิด
More in this category: « สิ้นตัวตนของผู้หลงยึดถือ วิญญาณธาตุ กับ วิญญาณขันธ์ ตอนที่ 2 "ใจ" รู้อะไร »
back to top

Search

โอวาทธรรม Archive

  • โอวาทธรรม 60-61
  • โอวาทธรรม 62
    • ม.ค. - มี.ค. 62
    • เม.ย. - มิ.ย. 62
    • ก.ค. - ก.ย. 62
    • ต.ค. - ธ.ค. 62
  • โอวาทธรรม 63
    • ม.ค. - มี.ค. 63
    • เม.ย - มิ.ย. 63
    • ก.ค. - ก.ย. 63
    • ต.ค. - ธ.ค. 63
  • โอวาทธรรม 64
    • ม.ค. - มิ.ย. 64
  • โอวาทธรรมถึงใจ
  • ประชาสัมพันธ์สื่อธรรม
  • โอวาทธรรมชุด

5BA01AEA 57EC 462B B6FB 90B6B03148ED

719CBB23 865C 4DF5 A1C8 222F752DCCBB

« May 2025 »
Mon Tue Wed Thu Fri Sat Sun
      1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31  

Facebook

เพจหลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย

บทถอนอธิษฐาน

  • บทถอนอธิษฐาน
Copyright © หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย 2025 All rights reserved.
โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 63