ผู้ถาม : กราบเรียนหลวงตา
ลูกเริ่มเห็นเค้าลางๆแล้วเจ้าค่ะ ว่าที่แท้แล้ว ความอยากที่จะพ้นทุกข์มันเหมือนเสี้ยนแทงใจตัวเอง
ความรู้สึกตลอดเวลาว่า เรายังไม่พ้นทุกข์ เราอยากพ้นไปเสียจากความรู้สึกทุกข์
มันเป็นตัวไปจับพลังงาน และแสบร้อนในทันทีเจ้าค่ะ
และมันทำอะไรทดแทนไม่ได้ด้วย คือ จะไปเอากิเลสทางโลกเข้ามา มันก็ไม่เอาแล้ว ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ขอพ้นไปจากทุกข์อย่างเดียว
ฟังธรรม ก็ไม่ได้อีก เพราะฟังไปเพื่อให้หลวงตาชี้ทางพ้นทุกข์ แต่ความอยากพ้นทุกข์มันไม่หายไปจากใจเลย มันก็ทุกข์อยู่ดี
สุดท้าย ก็ต้องยอมปล่อยมือจากสิ่งที่อยาก ยอมปล่อยใจจากสิ่งที่อยาก
ใจและความอยาก จึงเป็นอิสระต่อกัน มันจึงจะไม่ทุกข์ของมันไปเองเจ้าค่ะ
แต่จริงๆ ใจมันไปจับอะไรให้เป็นทุกข์ไม่ได้
แล้วอะไร ที่ไปจับความอยากให้เป็นทุกข์กันแน่
ลูกเริ่มสงสัยว่า หรือจริงๆแล้วตัวเซ็นเซอร์ มันเป็นความปรุงแต่ง ใช่ไหมเจ้าคะ
หลวงตา : “อวิชชา” หลงยึดมั่นเป็นตัวเรา ของเรา เป็นตัวจับยึดให้เป็นทุกข์
สิ้น “อวิชชา” หรือ สิ้นหลงยึดมั่นมีตัวตน เป็นเรา ตัวเรา ของเรา ก็จะสิ้นผู้เสวย สิ้นกิเลส พ้นทุกข์ (นิพพาน)
หลังจากนั้น จะไม่หลงยึดมั่นมีตัวเรายังไม่นิพพาน หรือ มีตัวเราจะนิพพานในอนาคต จะไม่หลงคับแค้นใจ เป็นกังวลว่าเรายังไม่นิพพานแต่เราจะตายแล้ว
ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564