ผู้ถาม : กราบ กราบ กราบ เจ้าค่ะ ลูกได้มีโอกาสเห็นองค์หลวงปู่ในฝันอยู่หลายครั้ง พระธรรมท่านแสดงเป็นองค์ท่านมาเมตตาในฝัน วันก่อนนั้นฝันว่าองค์หลวงปู่และองค์หลวงตายืนคู่กันอยู่ตรงหัวเรือ แต่ลูกและผู้คนอื่น ๆ อยู่หลังองค์หลวงปู่และหลวงตาในเรือลำนั้นแต่ถูกกั้นไว้ด้วยตาข่าย แม้อยู่ใกล้อยู่ในเรือลำเดียวกันแต่ยังไม่พ้นจากบ่วงของมารเจ้าค่ะ ลูกเข้าใจเช่นนั้น ลูกน้อมระลึกพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์มาไว้ในใจ ไว้ที่พุทโธเจ้าค่ะ จะเพียรต่อไปเจ้าค่ะ แรก ๆ ก็ยังกระท่อนกระแท่นอยู่แต่ก็จะไม่ละความเพียรเจ้าค่ะ องค์หลวงตามีสิ่งใดเมตตาชี้แนะมั้ยเจ้าคะ หลวงตา : ฝันเห็นลงเรือลำเดี๋ยวกับหลวงปู่ลี ตาณังกโร และ หลวงตา แสดงว่ามีบุญบารมีมาแต่ปางก่อน จะอาศัยเรือ (คือพระสัจธรรม) ข้ามทะเลทุกข์ได้ อย่าท้อ…….. อุปสรรคทั้งหมด ผ่านพ้นไปได้ ก็จะเป็นประสบการณ์ตรง เป็นบารมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ผู้ถาม : ที่ผ่านมาทุกข์เพราะส่งจิตออกนอกเจ้าค่ะ ตอนนี้น้อมที่องค์หลวงตาบอกว่าให้วัดจิตวัดใจตัวเอง อย่าเอาอะไรมาทำร้ายใจตัวเองที่เค้าสงบอยู่ดี ๆ แล้วก็หาเรื่องส่งออกไปรักไปชังเจ้าค่ะ ที่ผ่านมาลูกเพิ่งเห็น คือ เข้าใจที่องค์หลวงตาสอนว่าครอบครัวอยู่ด้วยกันจริง ๆ มันยึดกันไม่ได้ ถึงตัวติดกันมันก็ไม่ได้ยึดได้จริง แต่มันยึดที่ความคิดที่ส่งที่แล่นออกไปเจ้าค่ะ ไปจับไปฉวยมาเป็นเราเป็นเขาเจ้าค่ะ มันเลยทุกข์เจ้าค่ะ ตอนนี้ก็ฝึกสติให้รู้เท่าทันจิตที่แล่นออกไปเจ้าค่ะ เพราะมันเห็นโทษของความยึดให้เป็นทุกข์เจ้าค่ะ หลวงตา : ธรรมชาติฝ่าย”สังขาร”เท่านั้น จึงเกิดความคิด ความปรุงแต่งหลงไปยึดติดยึดถือคนใดหรือสิ่งใดให้เป็นกิเลส ตัณหา และความทุกข์ได้ แต่จิตหรือใจเดิมแท้เป็น”นิพพานธาตุ” สูญตาธาตุ อมตธาตุ อมตธรรม ซึ่งเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว เขาเป็นธรรมหรือธรรมชาติที่ไม่ปรากฏ (วิสังขาร หรือ อสังขตธาตุ) จึงไม่อาจหลงคิด หลงปรุงแต่งยึดถือให้เป็นกิเลส ตัณหา และ ทุกข์ได้ และ ธรรมชาติจิตเดิมแท้ เขาเป็นนิพพานโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องมีความพยายามอย่างใด ๆ เพื่อจะช่วยจิตหรือใจเดิมแท้ หรือ นิพพานธาตุ ให้เป็นนิพพานอีก ความไม่รู้แจ้ง ”สัจธรรม” ความจริงแท้ของธรรม หรือ ธรรมชาติดังกล่าว เป็นเพราะ “อวิชชา” จึงหลงเล่นอยู่ในสังขาร ซึ่งเป็นธรรมชาติเกิดดับ หรือ เกิดตาย ส่วนธรรมไม่เกิด ไม่ตาย (นิพพานธาตุ) มีอยู่ เป็นอยู่เช่นนั้นอยู่แล้ว กลับไม่พบ ผู้ถาม : ตัวเราเป็นแค่สังขารเกิดดับในนิพพานใช่มั้ยเจ้าคะ หลวงตา : สาธุ ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566