ผู้ถาม : กราบเท้านมัสการองค์หลวงตาค่ะ ศิษย์กราบขอโอกาสค่ะองค์หลวงตา
จากที่ส่งการบ้านองค์หลวงตาเมื่อวานก็ปรุงแต่งไปว่าได้เขียน/แสดงอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า เพราะธรรมที่แสดงหลังจากองค์หลวงตากลับมามันละเอียดมาก สิ่งที่ศิษย์เขียนไปเหมาะสมหรือไม่ ก็เห็นอาการไหลไปปรุงแต่ง เห็นอาการบังคับกดข่ม จนพาลไหลไปปรุงแต่งในเรื่องอื่นๆ จนเค้าสงบลง แต่ก็เหมือนจะได้เรียนรู้อะไรขึ้นค่ะ
เมื่อเช้าตอนเตรียมของตักบาตร รอตักบาตร ขณะตักบาตร ตักบาตรเสร็จแล้ว เห็นความสงบ และความปรุงแต่งเกิดดับ เกิดดับ เห็นอาการละเอียดที่แอบเข้าไปวุ่นวาย ยังมีความรู้สึกในบางขณะเลยค่ะว่า เห็นละเอียดๆ ๆ เข้าไป เห็นแล้วมันยังไง ความรู้สึกว่ามีตัวเราก็ยังอยู่ ไอ้ที่ไปวุ่นวายก็ยังอยู่ (ตอนนี้รู้แล้วว่าหลงไปเลยค่ะ ^^!)
ตักบาตรเสร็จมานั่งสมาธิก่อนฟังองค์หลวงตาแสดงธรรม … ออกจากสมาธิก็ปรุงอีกว่าถ้ามีเชือกในมือและมีกรรไกรที่ถ้าตัดเชือกนี้แล้วความยึดทั้งหมดจะหายไป ก็ปรุงแต่งไปว่าตัวเราก็หายนะ ความจำหายนะ reset ใหม่เลยนะ ปรุงค้างๆ คาๆ ทิ้งไว้ … แล้วคำสอนที่องค์หลวงตาสอนโยมท่านหนึ่งก็กระแทกตูบ … “วางเหมือนวางไมค์” จบเลยค่ะเหมือนโลกถล่มลงตรงหน้า
และจากโยมท่านสุดท้าย ที่ว่ารู้อะไรก็มีเราเข้าไปยึด … นึกถึงคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ว่ามหาเหตุอยู่ที่รู้ (จำได้ประมาณนี้ค่ะ) แล้วก็เลยนึกไปถึงสภาวะหนึ่งที่ศิษย์เจอตอนเอนหลังพิงเบาะหลังนั่งสมาธิ ที่เห็นจิตเคลื่อนไปหาอะไรสักอย่าง … ความเข้าใจตอนนี้ เลยเข้าใจว่าตัวเราที่ยึดมันแค่อาการเคลื่อนของจิตที่เคลื่อนไปยึดอาการเท่านั้น มันไม่ได้มีตัวมีตน มันเคลื่อนตามสัญญา แล้วสังขารก็ปรุงแต่งต่อไป … แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่กราบเรียนองค์หลวงตามาทั้งหมด มันก็เป็นอาการ อาการหนึ่งที่เกิดและดับเท่านั้น
กราบเท้าองค์หลวงตาเหนือเกล้า คำสอนที่องค์หลวงตาโพสเมื่อวาน มันกลับกระแทกอย่างแรง
“… ไม่มีวิธีการ …”
กราบบูชาองค์หลวงตาเหนือเกล้าค่ะ
ศิษย์กราบแทบเท้าขอขมาองค์หลวงตา หากศิษย์ประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินองค์หลวงตาแม้เพียงเล็กน้อย
กราบขอกราบบูชาองค์หลวงตาเทิดไว้เหนือเกล้า ขอองค์หลวงตาเมตตาชี้แนะหากศิษย์มีความเห็นผิดพลาดในสิ่งใดๆ
หลวงตา : ที่สักแต่ว่าเห็นอาการ อาการ ๆ………….มาตอนแรกถูกต้องแล้ว
แต่ตอนที่กราบขอขมานี้ กำลังมีตัวตนโดยไม่รู้ตัว
ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564