ผู้ถาม : กราบเรียนหลวงตา ไม่รู้มันเป็นอะไร พอไม่ได้พิจารณา ไม่ได้ทำสิ่งใดเลย แต่ขณะขับรถมา ฝนมันตกมาเรื่อย ๆ มันรู้สึกเป็นนิมิตติดจิตเลย เห็นแต่ภัยพิบัติ เห็นแต่ความสูญไปสิ้นไปของโลก
น้ำท่วมถนนที่รถเรากำลังวิ่ง สูงราวตึก 3-4 ชั้น เสาไฟฟ้าล้มทับถนนลงมา ผู้คนโดนน้ำพัดพาจำนวนมาก มันไม่มีอะไรเหลือเลย
ใจมันปลงวาบไปมากเลยเจ้าค่ะ เวลาที่มีนิมิตเช่นนั้น มันรู้สึกว่าเราได้อะไร ปฏิบัติอะไร จะอะไรเป็นอะไร ไปอะไรกับอะไร มันล้วนไม่สำคัญแล้ว เพราะโลกนี้ มันกำลังจะสูญสิ้นแล้ว มันจะไม่มีใครได้อะไร และไม่เหลืออะไรเลย
และท้ายที่สุด ตัวเราไม่อาจช่วยใครได้เลย มันไม่เหลือตัวเรา ไปช่วยเหลือใครอีกแล้ว เพราะท้ายสุดทุกอย่างจะดับสิ้น
ความดับ มันขยายครอบคลุมโลกเลยเจ้าค่ะ
ลูกไม่แน่ใจว่าบ้าไปแล้วหรือเปล่า ที่เป็นความรู้สึกที่ชัดเจนแบบนั้นเจ้าค่ะ
หลวงตา : เข้าถึง “ใจ” วิสังขาร สงบ เงียบ ไร้ตัวจิตตัวใจ ไร้การปรุงแต่ง ไม่มีเป้าหมาย สงบเย็น
ผู้ถาม : เจ้าค่ะ หลวงตา มันพ้นสิ่งนั้น และไม่อาจทำสิ่งใด เพื่อเข้าถึงมันได้ และไม่อาจเข้าใจได้
แต่เป็นด้วยใจ ที่หยุดดิ้นรนเท่านั้น
ธรรมในใจ มันเป็นอะไรไปแล้ว เหมือนความเข้าใจมันไม่อาจเข้าใจธรรมได้เลย ได้แต่ต้องพ้นสังขาร ลงลึกจนถึงใจโดยตรงเท่านั้น
พูดธรรมกับใคร ไม่รู้เรื่องแล้วแน่ ๆ เจ้าค่ะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2562