ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาครับ ผมขอกราบรายงานผลการปฏิบัติครับ
ที่ผ่านมาผมเฝ้าดูจิตทุกขณะที่มีสติอยู่ มันก็เห็นว่ามันไม่ก้าวหน้าไปไหน และก็เห็นความคิดนี้ด้วย แต่มีระยะหนึ่งจิตมันหลง หลงไปกับกิเลสมาก เป็นทุกข์มากครับ
เมื่อเป็นทุกข์มากจึงเห็นประโยชน์ของการเห็นจิต เพราะเมื่อเห็นจิตก็ปล่อยวางกิเลสลงได้
ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันไม่ก้าวหน้าไปไหนก็ช่างมัน เพียงแค่เห็นจิตก็พออยู่พอกินแล้ว ผมว่ามะม่วงของผมมันยังดิบ รู้มันเห็นมันไป เดี๋ยวถึงเวลามันก็สุกเองครับ
หลวงตา : หลงยึดถือผู้ไม่ก้าวหน้า เป็นตัวเป็นตน เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา
เลยมีความรู้สึกว่าเราไม่ก้าวหน้า
ให้รู้เท่าทันความหลงยึดถือนั้น
มีแต่ธรรมชาติของสังขาร เกิดดับในวิสังขาร (จิต หรือใจ หรือธาตุรู้บริสุทธิ์) เพราะหายโง่ สิ้นอวิชชา
รู้แจ้งว่าไม่มีตัวตนคงที่ที่เป็นเรา ตัวเรา ของเราอยู่ในสังขาร และวิสังขาร ใจจึงว่างเปล่าจากความมีตัวตน
หลังจากสิ้นหลง (สิ้นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน) คงมีแต่สังขารเกิดเองดับเอง เกิดเองดับเอง........ในใจที่ว่างเปล่า
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562