ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาค่ะ ฟังไฟล์เสียง "หมดคำถาม ไร้คำตอบ" ตื่นนอน สังเกตต้นจิตทีละขณะ เห็นต้นจิตที่เริ่มคิดปรุงปรุงคิด ใจแค่รู้ก็ดับไป เห็นจิตที่รู้สึกเป็น "เรา" จิตจะหลงสั้น หรือหลงยาว ใจแค่รู้ก็ดับไป ไม่หลงตามไป และไม่ว่าจะรู้สึกตรงไหนของกาย ใจก็แค่รู้ ก็ดับไป ชัดเจนในความเป็นธาตุของกาย ไม่มี (เรา) ไม่ใช่เรา เพราะใจรู้แล้ว "เราเป็นเพียง (มายา) ความคิดปรุง (สิ่งถูกรู้)" ใจหรือธาตุรู้เป็นสิ่งหนึ่งต่างหาก ที่แค่รู้ สักแต่รู้
- รู้จิตคิดนึกปรุงแต่ง "เรา" แวบเดียวขณะจิตก็ เป็นสิ่งหนึ่ง (อารมณ์ถูกรู้)
- รู้อาการของจิต (นาม) ต่าง ๆ เป็นสิ่งหนึ่ง (ถูกรู้)
- รู้กาย (รูปธาตุ 4) เป็นสิ่งหนึ่ง (ถูกรู้)
สิ่งถูกรู้ทั้งหมดนั้น ใจแค่รู้ว่า "มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นและดับไป ๆ"
อาศัยฟังไฟล์ "ทางสายปล่อยวาง 1, 2, 3 และรู้ต้นจิต" หลวงตาแสดงธรรมอธิบายแยกแยะละเอียดลึกซึ้ง เพื่อให้เข้าถึงขณะจิตอวิชชา จึงรู้ว่าที่พลาด คือ ใจหรือธาตุรู้ที่ไปเห็นสิ่งถูกรู้ทั้งหมดรู้ว่า "ไม่ใช่เรา" อวิชชาจึงลวงใจให้เชื่อ เสมือนไม่ปรากฏ (เรา) ในธาตุรู้ (ใจ) ด้วย ทั้งปกปิดทำให้ไม่เห็นว่า ใจหรือธาตุรู้นั้น แท้จริง คือ "อาการของสติสมาธิปัญญา ตั้ง (ซ่อนเจตนา) รู้ที่ใจ (ซ่อนเจตนา) ละที่ใจ (ซ่อนเจตนา) ดับที่ใจ" ยังเป็นสังขาร เป็นสิ่งเกิดดับ และไม่เฉลียวใจเลยว่า ที่ใดมีสิ่งเกิดดับ (สังขาร) ที่นั้นย่อมมีกิเลส (ชั้นครูไม่แสดงตัวเป็นเรา) ซ่อนอยู่ ปัญญาเหมือนมีดที่ทื่อ ย่อมฟันไม่ถูกตัว และไม่อาจฟันขณะจิตเดียวให้ขาด เพราะฉะนั้น ไม่ควรประมาทกิเลสแม้ขณะจิตเดียวนะคะหลวงตา ขอหลวงตาเมตตาชี้แนะด้วยค่ะ
กราบด้วยความเคารพและขอบพระคุณเป็นอย่างสูงในความเมตตาของหลวงตา หลวงตาเสมือนผู้ที่หงายของที่คว่ำ ผู้เปิดของที่ปิด ผู้ส่องไฟในที่มืด หวังช่วยผู้เดินหลงทางในที่มืด ให้ถึงที่หมายโดยปลอดภัย
หลวงตา : สาธุ ชัดเจนถึงใจดี ถ้าติดขัดอย่างไร ให้นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นึกถึงพ่อครูอาจารย์และหลวงตา นะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2562