ผู้ถาม : กราบเท้านมัสการองค์หลวงตาค่ะ ขอโอกาสส่งการบ้านค่ะ เมื่อวานมีความรู้สึกถึงอาการดิ้นรนพยายาม แล้วก็เห็นความหม่นหมองอีกแล้วค่ะ ก็นิ่งอย่างที่หลวงตาสอนค่ะ สักพักก็รู้สึกถึงความยึดในกาย มีความเป็นห่วง มีความกังวลกับความเจ็บป่วย กลัวความทุกข์ทรมาน จนเกิดความเศร้าหมอง แว็บนึงจิตเหมือนจะลงล็อกไปติดอารมณ์เศร้าหมอง กำลังจะเพ้อรำพันถึงความทรมานในวัฏฏะ
แต่จู่ ๆ มันก็เหมือนโดนดึงออกมาจากอารมณ์นั้น ... แล้วก็มีความคิดว่าไหน ๆ ก็กังวลแล้ว ก็เลยหยิบเอาความกังวลนี้มานั่งพิจารณาก็เห็นความกลัวชัดขึ้น เลยค่อย ๆ หั่นเนื้อ แยกร่างตัวเองออก เห็นจิตที่มันไม่ยอม มันกลัว มันหวง ก็กรีดไปหั่นไป แยกร่างออกมากอง ๆ ไว้ ระหว่างที่พิจารณาไม่ได้เห็นเป็นภาพชัด มันเป็นภาพเป็นบางช่วงสั้น ๆ เองค่ะ สักพักรู้สึกเบาลง เหมือนมันกลัวกับห่วงน้อยลง ก็กลับมาอยู่กับลมหายใจ
เลยมีความรู้สึกว่า ในวาระสุดท้ายก็คงเหมือนกับตอนนี้ คือมองลมหายใจเคลื่อนไหว เข้า-ออก ไปด้วยความนิ่ง สงบ จนกว่ามันจะหยุดไป หลังจากนั้นก็รู้สึกเข้าใจคำสอนของครูอาจารย์ชัดเจนขึ้นค่ะ ที่ให้พิจารณาทุกอย่างลงกฎพระไตรลักษณ์ เป็นสิ่งเกิดดับ ... จนรู้สึกถึงความสงบนิ่ง ... มันเหมือนของ 2 สิ่งที่อยู่ด้วยกัน แต่ไม่รวมกัน
แม้กระทั่งความพอใจในความรู้เห็นในธรรม ความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่าง ๆ แม้ความมีตัวตน ก็เป็นสิ่งเคลื่อนไหว ... จึงทำให้แจ้งแก่ใจว่าสิ่งเคลื่อนไหว แม้แต่นิดหนึ่ง น้อยหนึ่ง ก็ล้วนเป็นธรรมชาติที่เกิดดับ ... ไม่ใช่ปล่อยวาง ไม่ใช่ไม่ยุ่ง ไม่ใช่ช่างมัน แต่มันไม่มีอาการใด ๆ เลย ... จิตรู้สึกเป็นอิสระ ความรู้สึกเป็นอิสระ ก็เป็นความเคลื่อนไหว จบเป็นขณะจิต ๆ ค่ะหลวงตา
หลวงตา : สาธุ ให้พิจารณาลงกฎพระไตรลักษณ์อย่างต่อเนื่อง
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562