ทีมงาน : กราบนมัสการองค์หลวงตาอย่างสูงเจ้าค่ะ มีคำถามในไลน์แอดจากคุณ dr.kittiwat
ซึ่งอธิบายกลไกของการสิ้นหลงว่ามีตัวตน โดยเรียงเป็นลำดับ ๆ
ทีมงานตอบคำถามคุณ dr.kittiwat
เมื่อโลกกระจกกลายมาเป็นห้องอันสงบสงัดของเขาผู้สังเกตคนนั้น
เขารู้แต่ว่าห้องว่างเปล่า แต่เขาผู้รู้ที่รู้ห้องว่างเปล่านั้น ตัวเขาไม่ว่างเปล่า ตัวเขากลับมีตัวตนแต่ไม่เห็นตน
แต่ด้วยตัวเขาผู้รู้ที่คอยสังเกตอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย จนเมื่อขณะจิตนึงที่ “ความรู้”ว่าห้องว่างเปล่าได้ขาดหายไป ชั่วขณะจิตนั้นตัวเขาผู้รู้ได้ดับหายไปด้วย
ความจริงได้ปรากฏขึ้น ตัวเขาผู้รู้เป็นสิ่งเกิดดับเหมือนสังขารตัวอื่น ตัวเขาผู้รู้จึงไม่ได้แตกต่างกับสังขารอื่น ๆ เลย
ถึงตอนนี้ไม่มีห้องว่างเปล่าใด ๆ อีกแล้ว เพราะรู้แจ้งแล้วว่า… ตัวเขาผู้รู้เป็นเพียงสิ่งเกิด ๆ ดับ ๆ ไม่มีอยู่จริง จึงสิ้นหลงยึดถือว่าผู้รู้เป็นตัวเป็นตน
เหลือแต่ “ความรู้” ที่ไม่มีเจ้าของอีกต่อไป กำแพงห้องว่างที่เกิดจากความยึดถือในตัวเขาที่เป็นผู้รู้จึงดับหายไป
อากาศในห้องกระจายออกรวมกับบรรยากาศอันกว้างใหญ่ ขอบเขตสมมุติที่คับแคบสลายรวมกับความไพศาล เป็นรู้ที่สิ้นเปลือก (กำแพง) หุ้ม จึงไร้ขอบเขต
'รู้พบรู้' ที่เหมือนกันเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั่วจักรวาลโยงใยกันเป็นหนึ่งเดียวตลอดกาลนาน
จบราตรีอันมืดมิดยาวนานดั่งอนันตกาล....
หลวงตา : สาธุ ดีแล้ว
เมื่อจบที่ใจ รู้แจ้งที่ใจ สิ้นยึดที่ใจแล้ว
ทุกปัจจุบันขณะจะรู้แจ้งแก่ใจว่า ขันธ์ห้า เป็นเพียงธรรมชาติปรุงแต่งเกิดดับ ในธรรมชาติที่ ไม่เกิดดับ ส่วนผู้หลงยึดมั่นถือมั่นไม่มี
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562