ผู้ถาม : น้อมกราบหลวงตาด้วยเคารพและศรัทธาสูงสุด
ไฟล์ 200504A1-2 อยู่กับโลกด้วยใจที่เป็นธรรมตอน2 ฟังหลายรอบ เด็ดโดนมาก หลวงตาแจกแจงธรรมละเอียดและชัดเจนมาก ๆ เช่น
พระพุทธเจ้าตรัสว่าความเป็นตัวตนไม่มีอยู่จริง เพราะทุกสรรพสิ่งเกิดมาจากความไม่มี หลวงตาแนะให้โยนิโสมนสิการตามนี้ทุกครั้งที่จะปฏิบัติธรรมหรือพิจารณาธรรมเพราะช่วยเสริม (โยนิโสมนสิการ = การทำในใจให้ดีละเอียดถี่ถ้วน) การพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน
ท่านโกณฑัญญะ มีความรู้แจ้งขึ้นว่า "ยังกิญจิ สมุทยธัมมัง สัพพันตัง นิโรธธัมมันติ" สิ่งใดก็ตามมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา เมื่อท่านมีความรู้ตรงนี้แล้ว ดวงตาเกิดขึ้นแล้ว ดวงตาคือธรรมะ ท่านโกณฑัญญะบรรลุโสดาบัน
บางคนบรรลุโสดาบันแล้ว แต่ทำไมไม่บรรลุนิพพานต่อเลย เพราะมีเราบรรลุโสดาบันแล้ว ไปยึดผู้รู้ผู้เห็นเป็นเรา ให้เห็นว่าผู้รู้ผู้เห็นเป็นสังขาร ก็ดับไป น่าจะนิพพานได้ แต่ยังไม่นิพพานเพราะมีเราไม่ยึดถืออะไรในโลกนี้แล้ว เราไม่ต้องเกิดอีกแล้ว คือไปยึดเอาผู้รู้ผู้เห็นเป็นเราอีก ถ้าเห็นผู้รู้ผู้เห็นเป็นสังขาร ก็ดับไป อวิชชาดับ ก็หายโง่ นิพพาน
น้อมกราบขอหลวงตาโปรดชี้แนะว่ามีผิดพลาด คลาดเคลื่อนหรือไม่อย่างไรเจ้าค่ะ
หลวงตา : ความเข้าใจถูกทางธรรมแท้แล้ว
แต่ในใจลึก ๆ ๆ ๆ ..... มันมี ”อวิชชา” เร้นอยู่ที่ยังไม่รู้เท่าทันมัน คือ หลงยึดเอาความคิดหรือความรู้สึกว่าคราวนี้เรา ตัวเราเข้าใจชัดเจนที่สุด....เรา ตัวเราจะบรรลุนิพพานอย่างแน่นอน
ซึ่งความหลงยึดความคิด ความรู้สึกปรุงแต่งสร้างนิพพานเป็นความว่าง เป็นสภาวะที่ถูกยึดเอาได้ และปรุงแต่งสร้างเรา ตัวเราเป็นตัวตนจริง ๆ .... แล้วไม่มีสติ ปัญญารู้เห็นจากใจว่ามันเป็นเพียงคลื่นพลังงาน wave vibration เกิดดับ...เกิดดับ.......ไม่ใช่เป็นตัวตน เป็นเรา เป็นตัวเรา ....มันเป็น อวิชชา ตัณหา อุปาทาน สร้างภพ ชาติ ชรา มรณะ และความทุกข์ทั้งมวล
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563