ผู้ถาม : น้อมกราบองค์หลวงเจ้าคะ
เมือคืนวันวิสาขบูชา ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเพื่อน้อมรำลึกในพระพุทธคุณขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยการสวดอธิษฐานก่อน ซึ่งกระทำสม่ำเสมอ
ฟังไฟล์ทั้งสามที่องค์หลวงตาเน้นย้ำใหม่ ความเงียบ สงบ สงัด ของค่ำคืนนี้เป็นใจให้ สติ-ปัญญา ชัดเจน ทุกครั้งที่ภาวนา มันเหมือนมีเราตั้งขึ้นมาเพื่อทะยานไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว เหมือนว่ากำหนดรู้ไว้ หรือเหมือนเราสร้างผีขึ้นมาแต่แท้จริงผีไม่มี การตั้ง การกำหนด การสร้าง ล้วนเป็นอาการโดยมีผู้กระทำคือตัวเรา ตัวเราตัวใหญ่ตัวนี้ มักมองไม่ออก มันแนบเนียนและเป็นความเคยชินของภพภูมิที่เป็นสังขารตัวนี้
ความจริงแล้วในวิสังขารมันไม่มีอะไรเลย ไม่มีความปรุงแต่ง ไม่มีผู้กระทำ ไม่มีอาการแม้แต่น้อยหนึ่ง มันรู้แต่สังขารที่มาเกิดในมันแล้วดับไป ตัวมันไม่เกิดไม่ดับ มันว่างเปล่า แต่มันรู้ได้ รู้นี้ก็ไม่มีตัวเราไปรู้ หรือยึดรู้ว่าเป็นเรา ความเป็นเรามันไม่มี มีแต่สสาร พลังงาน เดินไปเดินมา โดยมีสติระลึกรู้ สมาธิที่ตั้งมั่น ปัญญาก็รู้ตาม
ที่ผ่านมาใจร้อนเหมือนไปเร่งให้มันหมุน ถ้าสงบทุกอย่างก็ดำเนินไปย่างที่มันเป็น มันก็อธิบายยากนะคะ เหมือนเราต้องปรุงให้องค์หลวงตาเข้าใจเจ้าคะ รู้ว่าองค์หลวงตาตักเตือนจี้มาก็ร้อนรนขึ้นมาทันทีและรู้ว่ามีสิ่งที่ยึดถืออยู่เจ้าคะ
น้อมกราบในความเมตตาที่มีต่อศิษย์ผู้น้อยเสมอมาเจ้าคะ
หลวงตา : สาธุ
โยมเริ่มมีสติ ปัญญารู้เห็น รู้เท่าทัน รู้แจ้งจากใจจริงๆแล้วว่า “นิพพาน” และ ความเป็นเรา ตัวเรา ที่จะไปเอา ไปได้ ไปถึง ไปเป็น สำเร็จ บรรลุถึง”นิพพาน” นั้น เป็นเพียงความคิด ความรู้สึก เป็นคลื่นพลังงาน wave vibration ที่ปรุงแต่งขึ้นมาจากความไม่มีอะไร
แต่ก็ยังหลงสังขารปรุงแต่งนั้นมันหลอกเอาได้อยู่เสมอ ๆ ๆ ...
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563