ผู้ถาม : กราบขอโอกาสครับ
ตอนนี้ผมกำลังตรวจไฟล์ชื่อ หน่อแห่งพุทธะอยู่ครับ ในใจพยายามจะสรุปค้นหาว่าอะไรคือที่สุดของมายาลวงโลกกันแน่ จะได้เค้นกลั่นกรองออกมาเขียนสรุปให้ถึงใจ
พลิกความคิดไปมาไปมา ก็ยังไม่สิ้นสุดแก่ใจว่าอะไรที่จะถือเป็นสุดยอดมายาลวงโลกที่แท้จริง มาสะดุดตรง “มึงนี่แหละ” คือมายาลวงโลกตัวจริง จิตใจข้างในกระสับกระส่ายดิ้นไปดิ้นมาแทบจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้เพราะจำนนต่อความจริงตรงนี้
ไม่มีธรรมอะไรคือที่สุดแห่งมายาลวงโลกแม้แต่สุดยอดมายา ถ้าผมจะเขียนออกไปได้ ตัวมันก็เป็นมายาจากใจกูอยู่ดี “กู” นี่แหละ มายาสุดๆ
หลวงตา : เพราะหลงเชื่อจิตจึงหลงคิด พูด กระทำไปตามกิเลส ตัณหา พาให้ทำผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ทะเลาะเบาะแว้งกัน พาให้เกิดความทุกข์เดือดร้อนเกิดความเสียหาย ทุกข์กายทุกข์ใจ ในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ทั้งในชาตินี้และในชาติอื่นๆ ต้องรับผลกรรมในภพของอบายภูมิตั้งแต่ปัจจุบันคือ กายเป็นมนุษย์ จิตสร้างภพชาติเกิดตายเป็นขณะจิต เป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรกซ้อนกายมนุษย์ เมื่อถึงแก่ความตายจึงไปเกิดรับผลกรรมในร่างภพภูมินั้น
*****ที่เป็นเช่นนี้เพราะความไม่รู้ (อวิชชา) จึงหลงคิดปรุงแต่งสร้างจิตหรือใจเป็นตัวกู เป็นของกู แล้วหลงเชื่อตัวกูผู้บงการอยู่เบื้องหลัง โดยคิดพูดทำไปตามที่ถูกตัวกูบงการตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว เพราะขาดสติ สมาธิ ปัญญา ไม่ได้นำพระสัทธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้ามาโอปนยิโก น้อมเข้ามาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบไว้ในใจตลอดเวลา จึงพาตนให้เป็นทุกข์ทั้งภพปัจจุบัน และในภพต่อๆไป
ไม่มีใครจะหลอกลวงเราได้มากเท่ากับตัวเรา หรือตัวกูหลอกลวงกูเองตลอดเวลา แม้จะมีครูอาจารย์ผู้ชี้แนะตามพระสัทธรรมคำสอน แต่กูก็ยังหลงเชื่อตัวกูผู้บงการมากกว่าเชื่อพระธรรม กูจึงเป็นทุกข์อยู่ทุกวันนี้
นี่แหล่ะ! ที่สุดของมายาหลอกลวงโลก
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563