ผู้ถาม : ส่งภาพพร้อมข้อความ
ท้องฟ้าที่ว่างเปล่าจาก “ก้อนเมฆ”
เปรียบเหมือนกับ
ใจที่ว่างเปล่าจาก “ความปรุงแต่ง” (สังขาร)
หลวงตา : ภาพธรรมนี้จะทำให้เข้าใจผิดและปฏิบัติผิดได้ โดยจะหลงปฏิบัติผิดพยายามไล่ดับความคิดปรุงแต่ง (สังขาร) เพื่อให้ท้องฟ้า (ใจ) ว่างเปล่า
***พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์สาวก แม้บรรลุนิพพานแล้ว แต่เมื่อขันธ์ห้าซึ่งเป็นสังขารยังไม่ตายแตกดับ (ปรินิพพาน) สังขารก็ยังเกิดดับอยู่ ไม่ใช่มีแต่ใจว่างจากสังขาร
เปรียบเหมือนเมื่อยังไม่ตายฉันใด ท้องฟ้า (เปรียบเหมือนใจ) ย่อมไม่ขาดนก (เปรียบเหมือนจิตตสังขาร) ฉันนั้น
แต่นกบินผ่านท้องฟ้าย่อมไม่ทิ้งร่องรอย เพราะสิ้นอวิชชา ตัณหา อุปาทานในใจแล้ว
ตอนที่พระสุภัททะ พระอรหันต์สาวกองค์สุดท้ายบรรลุนิพพาน มีเปรียบเทียบไว้ว่า ใจเปรียบเหมือนพระอาทิตย์ หรือพระจันทร์วันเพ็ญ (นิพพานธาตุ) กิเลสเปรียบเหมือนเมฆที่เป็นของจรมาปิดบังพระอาทิตย์ หรือพระจันทร์ พระอาทิตย์ หรือพระจันทร์ไม่ได้เคลื่อนที่เข้าไปหาเมฆ แต่เมฆเป็นของจรมาปิดบังพระอาทิตย์ หรือพระจันทร์
แต่เมื่อมีสติปัญญาวิมุตติ เห็นสัจธรรมความจริงแท้ว่า เมฆเป็นเพียงสังขารปรุงแต่งเป็นของจรมา ไม่ได้ทำให้พระอาทิตย์ หรือพระจันทร์หาย หรือเว้าแหว่งไป นิพพานธาตุก็คงเป็นนิพพานธาตุอยู่อย่างเดิม เมฆจรมาแล้วก็จรไปของเขาเอง
*****ไม่มีใคร ไม่มีตัวเราต้องไปพยายามทำอะไรกับอะะไร เพื่อให้ใคร ให้ตัวเราได้บรรลุถึง หรือเป็นอะไร
เพียงแต่รู้แจ้งว่า “สัจธรรม” ความจริงแท้ของธรรมชาติเป็นเช่นนั้นเอง
*****ธรรมชาติ มันเป็นเช่นนั้นเอง*****
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563