ผู้ถาม : นมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ ลูกได้ฟังไฟล์เสียงวันนี้แล้วเจ้าค่ะ และไฟล์เสียง “พิจารณาให้ละเอียดเพื่อเกื้อกูลตนเองและผู้อื่น”
ลูกขออนุญาตเล่าเรื่องธรรมเมา คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องฟ้าใส ได้เกิดขึ้นกับลูกเช่นกัน แต่จะต่างกันในรายละเอียด เพียงบางอย่าง อาทิเช่น ลูกเห็นที่เค้ามาขอส่วนบุญตอนนอนตะแคงขวาหลับตา แต่ไม่ได้หลับ เลยแผ่เมตตาให้ ภาพจะหายไป ลูกเคยอธิษฐานจิตว่าอย่ามาให้เห็นด้วยตาเนื้อ ลูกกลัว
เมื่อมีโอกาสลูกไปที่สุสานที่เยอรมัน ไปเปิดบทสวดมนต์และแผ่เมตตา เขาตามมาในตอนนอน เห็นเขาทรมานมาก อยากออกจากหลุม แผ่เมตตาให้พวกเขาตอนนั้น คิดถึงที่หลวงตาสอนเสมอว่า จิตที่ตายแล้วเด้งออกมานั่งร้องไห้ให้หลวงตาช่วยข้างโลกศพ เป็นแบบนี้ เขาทรมานจริง ๆ
และลูกเห็นแสงจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยตาเนื้อแบบไม่ได้ตั้งใจ ลูกฟังไฟล์เสียงเป็นแฟนพันธุ์แท้หลวงตามาตลอด และไม่เชื่อจิตตัวเอง ไม่เชื่อปาฏิหาริย์
ตามที่หลวงตาเมตตาสอนให้พิจารณาละเอียดมากขึ้น ลูกเห็นแล้วเจ้าค่ะว่า การสังเกตแบบที่ไม่มีเจตนา จิตเขาจะปล่อยวางเอง เห็นเอง เพราะไม่มีตัวคนเข้าไปวาง แค่รู้ปัจจุบันขณะแล้ววาง ทั้ง ๆ ที่ไม่ตั้งใจจะวาง
แค่รู้ แค่เห็น อันนี้ยิ่งเห็นได้ชัดตอนที่มีเรื่องกวนใจ จะเห็นจิต ธรรมารมณ์ และการทำงานของสังขาร ที่ทำงานร่วมกันในขณะเดียวกันชัด แบบที่หลวงตาสอนเจ้าค่ะ แค่รู้.... หลงหรือไม่หลง ปรุงแต่งหรือไม่ปรุงแต่ง อาการเวทนาในเวทนา อาการต่าง ๆ อารมณ์ต่าง ๆ เกิดเอง ดับเอง แค่รู้...
ส่วนที่สงบเขาก็สงบอยู่ เมื่อผัสสะเกิด แค่รู้เท่าทัน เดี๋ยวสักแต่ว่าเอง… สังเกตจิตดี ๆ ตามความเป็นจริง แบบที่หลวงตาสอน แต่บางทีในชีวิตประจำวัน ลูกพูดอะไรออกไปกับใคร เหมือนพูดในสิ่งที่เขาคิดอยู่ หรือ พูดอะไรในอนาคตที่ลูกไม่ได้รู้ แต่เหตุการณ์นั้น เกิดขึ้นจริง ๆ จนบางครั้ง มาพิจารณาเลยคิดว่าต้องระงับการพูด เพราะถ้าพูดแล้วเดี๋ยวเป็นจริง หรือพูดอะไรที่เขาคิดอยู่ เดี๋ยวเขาหาว่า รู้ได้อย่างไร ซึ่งจริง ๆ ไม่ได้รู้เจ้าค่ะ
ลูกจะเพียรต่ออย่างไม่ประมาท ตามที่หลวงตาเมตตาสอน เพื่อพระพุทธศาสนาเจ้าค่ะ น้อมกราบในความเมตตาที่ไม่มีประมาณของหลวงตาเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ
หลวงตา : ***** “ทุกอย่าง...ให้แค่รู้ที่ใจ จบที่ใจ … ไม่ติดยึด … รู้แล้วติด เป็นสมมติ รู้แล้วไม่ติด เป็นวิมุตติ”
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563