ผู้ถาม : แน่นอึดอัด น้ำตาไหล ไหล ไหล
หายใจเข้า ไม่หายใจออก ล้มลงที่พื้นดิน ธาตุรู้ออกไปชีวิตดับ
ถอนดึงผม ขน เล็บ ฟัน หนังออกมา เห็นแต่ปฏิกูล ไม่สวยไม่งาม เหม็น ไม่มีตัวตนอยู่ในนั้นเลย ดึงเนื้อ เอ็น ม้าม ตับ ปอด
หัวใจ ไต พังผืด ไส้เล็ก ไส้ใหญ่ อาหารใหม่ อาหารเก่า โยนทุกอย่างลงดินรวมกองเดียวกัน
แยกกระดูก เยื่อในกระดูก ออกเป็นกระดูก 300 ชิ้น ไม่ให้ติดกัน
รวมไว้อีกกอง แยกห่างออกไป
เอาธาตุน้ำรวมใส่ในถังคือน้ำตา น้ำมูก น้ำลาย เสลด ดี เลือด หนอง มันเหงื่อ มันข้น เปลวมัน ไขข้อ มูตร (น้ำปัสสาวะ)
พิจารณาหาตัวตนในอาการ 32 ไม่มีเรา ไม่มีของเรา ไม่มีตัวตนอยู่เลย
เห็นแต่ปฏิกูล เหม็น ไม่งาม ไม่น่ามอง ไม่ควรยึดถือ
หลายเดือนผ่านไป
- ธาตุดินกองแรก เน่าเปื่อย พุพังสลาย กลายเป็นดินตามเดิม
- ธาตุน้ำในถังระเหยเป็นไอน้ำ รวมเป็นเมฆ กลายเป็นน้ำฝนลงมาเป็นน้ำกินน้ำใช้
- จุดไฟเผาไม้ฟืน กระดูก เยื่อในกระดูกที่โล่งแจ้งนั้น ลมพายุพัดพาเถ้ากระดูกออกไปหลายทิศทาง
ดินกลับสู่ดิน
น้ำกลับสู่น้ำ
ลมกลับสู่ลม
ไฟกลับสู่ไฟ
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ไม่เหลืออะไรให้ยึดมั่นถือมั่นได้เลย จริงตามหลวงตาสอน
ชีวิตนี้ไม่เที่ยง
แปรปรวนดับสลายได้ตลอดเวลา
ความมีตัวตนไม่มีอยู่จริง
น้อมกราบขอบพระคุณและขอคำชี้แนะเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ เพียรให้มาก เพียรพิจารณาให้ต่อเนื่องไม่ขาดสาย แล้วจะสิ้นสงสัยเอง
ผู้ถาม : มีฟุ้งซ่านคั่นอยู่เจ้าค่ะ
หลวงตา : ให้รู้เท่าทัน กลับมาพิจารณาต่อเนื่องทันที
ผู้ถาม : น้อมกราบ กราบ กราบเจ้าค่ะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2563