ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาค่ะ หนูลองสังเกตนิสัยที่มันเป็น เห็นว่าเมื่อไรที่จะปฏิบัติธรรมมันจะมีธงปัก มีตัวมีตนขึ้นมา ขณะที่ไม่ได้สนใจว่าจะปฏิบัติไม่ปฏิบัติ มันก็ปกติของมันไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นอย่างไร แสดงว่า ความมีตัวตนมีเมื่อตั้งใจใช่มั้ยเจ้าคะ มันยังไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ตัวตนไม่มี เราไม่มีตัวตน ต้องพิจารณาตรงนี้ ตอนที่ขับรถมา มันก็เห็นว่า มันจะไปพิจารณาให้ตัวตนไม่มี มันก็มีการกระทำขึ้นมาอีกแล้ว ก็รู้แล้วปล่อยวางมันไปอย่างนี้ มันจะทำอะไรก็ช่างหัวมัน มันทุกข์เจ้าค่ะ พอมีอะไรปรุงขึ้นมาแล้วไปยึด มันทุกข์จริง ๆ
หลวงตา : สาธุ ให้ปล่อยวางจิตตสังขาร คือ ความคิดหรือจิตปรุงแต่งทุกอาการขณะปัจจุบัน และ อย่าโหยหา "วิสังขาร" เพราะผู้ดิ้นรนแสวงหาวิสังขาร มันจะหลงเป็นสังขารคือหลงคิดปรุงแต่ง และจะเกิดความเสียหาย คือ เมื่อหลงคิดปรุงแต่งซะแล้ว ก็จะไม่เห็นจิตคิดปรุงแต่ง ส่วนผู้ที่รู้เห็นจิตที่คิดปรุงแต่งตามธรรมชาติ จะไม่สามารถคิดปรุงแต่งหรือแสดงอาการอย่างใดได้ นั่นแหละคือใจหรือธาตุรู้ตามธรรมชาติ ที่เป็นวิสังขาร ถ้าผู้รู้ ผู้เห็นสามารถคิดปรุงแต่ง แทรกแซง หรือมีความอยากอย่างไรได้ อันนั้นเป็น "สังขาร" ไม่ใช่ธาตุรู้ที่เป็นวิสังขาร
ผู้ถาม : เผลอหน่อยไปเป็นสังขารเสียแล้ว ท่องจำให้เข้าในใจใช่ไหมคะ อย่าเผลอ หลงไปเป็นสังขารนะ
หลวงตา : .... เป็นฟ้าหรือเป็นน้ำอยู่ดี ๆ เผลอแผลบเดียว...ไปเป็นนกหรือเป็นปลาซะงั้น !!! .....
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560