ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ ในสมัยลูกเด็ก ๆ ลูกสงสัยมาตลอด เพราะเคยเห็นความคิดของตัวเอง แต่ตอนนั้นไม่เข้าใจเจ้าค่ะ เหมือนมีตัวเราอยู่หลายตัว ตอนเด็ก ๆ ลูกเคยนั่งสมาธิ จนรู้สึกว่า มันเบา ๆ โล่ง ๆ ตัวหายไป รู้สึกเหมือนมีความสุขมาก ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีใครชี้แนะ และลูกก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรเจ้าค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ประมาณชั้นมัธยมต้นเท่านั้น ลูกเรียนแต่โรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ และก็ไม่เคยปฏิบัติ อะไรมาเลยเจ้าค่ะ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ลูกมีนั่งสมาธิช่วงเช้าและเปิดวิทยุฟังธรรม จากพ่อแม่ครูบาอาจารย์บ้างเจ้าค่ะ แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติอะไรในรูปแบบ จนกระทั่งลูกพึ่งจะได้ทราบคำตอบมาเมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองจากคำสอนในไฟล์เสียงของหลวงตาเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่ลูกสวดมนต์ไหว้พระ ลูกมักจะอธิษฐานเสมอว่าขอให้ได้เจอกัลยาณมิตร ได้พบเจอพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เป็นธรรม ได้ฟังธรรมของท่าน แล้ววันหนึ่ง ด้วยแรงอธิษฐานก็ได้ทำให้ลูกได้มาเป็นลูกศิษย์ของหลวงตาเจ้าค่ะ ด้วยคำแนะนำจากเพื่อนกัลยาณมิตรสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน เมื่อวานนี้ลูกได้ไปฟังธรรมจากหลวงตาช่วงเช้า โดยก่อนออกจากบ้านลูกได้ไปกราบพระ ตั้งจิตอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธรูป องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอพระบารมีจากพระองค์ บารมีจากคุณพระรัตนตรัย และบารมีของบิดามารดา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ ตลอดบุญบารมีของตัวลูกเองที่ได้สั่งสมมาทุกชาติ ว่าวันนี้ลูกจะไปฟังธรรมจากหลวงตาที่สถานธรรมลัดดารมย์ ขอให้ลูกได้พบธรรม เห็นธรรม เข้าใจธรรม ที่องค์หลวงตาได้แสดงธรรมในวันนี้ด้วยเจ้าค่ะ ซึ่งน่าแปลกใจมากเลยเจ้าค่ะว่าการฟังธรรมวันนี้ ลูกได้รับธรรมจากหลวงตาที่เข้าถึงใจ จนลูกฟังไปกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริง ๆ ลูกได้รับทราบและสัมผัสได้ถึงความเมตตาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ขององค์หลวงตาอย่างสูงที่ได้เมตตาเพียรสั่งสอนลูกศิษย์มาตลอดเจ้าค่ะ ตอนนี้ลูกพอที่จะทราบแนวทางที่จะปฏิบัติอย่างไรเพื่อพ้นทุกข์แล้วเจ้าค่ะ นั่นคือให้เห็นว่าทุกสิ่งที่เคลื่อนไหวได้นั้นเป็นสังขารทั้งหมด ตัวเราไม่มีมาตั้งแต่แรกแล้ว เป็นสิ่งสมมติทั้งหมด จึงไม่มีใครจะไปปฏิบัติอะไร เพื่อจะได้หรือไปเอาอะไรเจ้าค่ะ อย่าไปเป็นปลาในน้ำหรือเป็นนกบนท้องฟ้า ... แค่นั้น ก็จะเป็นน้ำเป็นฟ้าหรือเป็นวิสังขารโดยอัตโนมัติแล้วเจ้าค่ะ นั่นคือให้เป็นใจอย่าหลงไปเป็นจิตปรุงแต่ง ให้อยู่กับรู้ รับรู้ทุกสิ่งแบบธรรมชาติ อย่างที่มันเป็นทุกขณะจิตปัจจุบัน มีสติ อยู่กับรู้ ไม่เข้าไปให้ค่าหรือแทรกแซง คือเป็นรู้แบบซื่อ ๆ หรือสักแต่ว่ารู้ โดยให้เพียรปฏิบัติแบบนี้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายเจ้าค่ะ ส่วนสังขารหรือขันธ์ห้าก็ปล่อยให้มันดำเนินไปอย่างที่มันเป็น จนมันแตกดับเสื่อมสลายไป โดยที่ไม่มีใจไปยึด เกาะเกี่ยว พัวพัน ให้เป็นใจที่ว่างเปล่า เป็นธาตุรู้ ที่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ และไม่ยึดทั้งสังขารและวิสังขารเจ้าค่ะ ปฏิบัติไปสุดท้ายก็คือไม่มีอะไรเลยเจ้าค่ะ ก็พ้นทุกข์ ลูกกราบขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงตาเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ ขอหลวงตาเมตตาชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ ถูกต้องแล้ว ปล่อยวางทั้งหมดที่ใจ ปล่อยวางแม้แต่ใจของเจ้าของ ไม่ยึดถืออะไรเลย ไม่คิดจะเอาอะไร ไม่แอบหวังหรือปรารถนาจะได้ จะเอา จะเป็นอะไร มีแต่ขันธ์ห้าทำหน้าที่ที่สมบูรณ์บริบูรณ์
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2560