ผู้ถาม : กราบนมัสการค่ะหลวงตา ตอนนี้หนูเริ่มเข้าใจสิ่งที่หลวงตาพร่ำสอนว่าให้อยู่กับรู้ หนูเริ่มเห็นตัวเองได้ชัดขึ้นว่า ที่หลงไปหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นเพราะเอาตัวเองไปอยู่กับคิด ไม่ใช่รู้ค่ะ หนูจะเพียรอดทนฝึกปฏิบัติให้อยู่กับรู้ ให้ต่อเนื่องมากขึ้น ถ้าหลงไปก็ให้รู้สึกตัว กลับมาอยู่กับรู้ เพียรอดทนดู รู้เห็นอาการทุก ๆ อาการว่าเป็นแค่สังขาร ไม่เอาตัวเข้าไปเป็นหรืออยู่กับอะไรให้เป็นทุกข์ หรือถ้าหากมีตัวเข้าไปเป็นอะไรแล้ว ก็ให้พยายามมีสติระลึกรู้ว่า ก็เป็นสังขารเหมือนกันค่ะ พยายามโยนิโสไว้ในใจให้ได้อย่างต่อเนื่องว่า ทุกสิ่งที่ถูกรู้ได้ เคลื่อนไหวได้ เป็นสังขารทั้งหมด เราไม่มี อย่างนี้ค่ะหลวงตา
อีกอย่างที่หลวงตาสอนว่า "ไม่เข้าไปดู" ตอนนี้หนูเข้าใจว่า ให้แค่รู้ทุก ๆ ความคิด หรือทุกอาการที่เกิดขึ้นอยู่เฉย ๆ โดยไม่ย้อนเข้าไปดูอีก เพราะจะก่อให้เกิดความมีตัวตนขึ้นมา โดยต้องหมั่นสังเกตและละไปทุกครั้งที่รู้ ว่าเริ่มจะมีตัวเข้าไปดูค่ะ หากมีสิ่งใดที่หลวงตาเห็นว่า หนูยังเข้าใจไม่ถูกต้อง หรือควรจะมีอะไรแก้ไขเพิ่มเติม ขอหลวงตาได้โปรดชี้แนะด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ
หลวงตา : ถูกต้องแล้ว เพียงแค่เป็นเครื่องอาศัยดู รู้เห็นเพื่อให้ใจธรรมชาติที่แท้จริงว่า
สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ สังขารา ทุกขา สังขารมีแต่ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์
สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมทั้งสังขาร (ธรรมชาติที่ปรุงแต่ง เกิดดับได้) และ วิสังขาร (ธรรมชาติที่ไม่อาจปรุงแต่ง ไม่เกิดไม่ดับ) เป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา อย่าหลงเข้าไปยึดมั่นว่าเป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นตัวตนของเรา ) เพราะตัวตนของเราไม่มีอยู่จริงทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต สิ้นหลงว่ามีตัวเราในความรู้สึก ก็สิ้นยึด หรือ สิ้นยึด ก็สิ้นตัวตน พ้นทุกข์
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560