ผู้ถาม : ครั้งก่อนที่เคยไปกราบหลวงตา และเรียนหลวงตาว่า เห็นสังขาร จิต ปรุงขึ้นจากความว่าง มัวแต่ดีใจว่าเห็นแล้ว หลวงตาได้เมตตาสอนว่า ให้รักษาศีล 5 โลกวัชชะแล้วปัณณัตติวัชชะ ก็ท่องไปแต่ไม่เข้าใจค่ะ โลกวัชชะยังทำไม่ได้ และไม่เข้าใจที่ว่าปัณณัตติวัชชะหมายถึงให้สำรวมใจให้มากขึ้นใช่หรือไม่คะ
หลวงตา : ให้มีความเป็นอยู่ดังนี้ ทั้งการคิด การพูด การกระทำ คือ ตนเองก็ตำหนิตนเองไม่ได้ โลกวัชชะ คือ โลกก็ตำหนิไม่ได้ ปัณณัติวัชชะ คือ ผู้รู้ก็ตำหนิไม่ได้ จะคิด พูด ทำสิ่งใดในที่ลับหรือที่แจ้ง ให้มีหิริโอตตัปปะ คือ ความละอายแก่ใจ เกรงกลัวต่อบาป ทั้งนี้ เพื่อ ให้สำรวมอินทรีย์ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเข้ามาหาใจผู้รู้ ไม่หลงส่งจิตออกนอก เพลินใจติดไปกับสิ่งที่ถูกรู้หรืออารมณ์ที่ถูกรู้ทุกขณะปัจจุบัน
หลงอดีต คือธรรมเมา หลงอนาคต คือ ธรรมเมา หลงปัจจุบัน คือธรรมเมา
ให้สักแต่ว่ารู้กาย รู้จิต ทุกขณะจิตปัจจุบัน หรือ ปล่อยวางร่างกาย หรือกายเนื้อ เพราะเห็นว่าไม่เที่ยง ต้องแก่ เจ็บ ตาย และ ปล่อยวางจิตตสังขารหรือกายจิต คือ ให้เห็นว่าผู้คิด ผู้แสดงกริยาอาการต่าง ๆ เป็นของเกิดดับ หรือเป็นของตาย ให้ปล่อยวางให้หมดตลอดเวลา อย่าไปหลงเอาตัวผู้คิด ผู้มีอารมณ์ว่าเป็นเรา เป็นตัวเรา หรือเป็นตัวตนของเรา
เมื่อปล่อยวางกายเนื้อและกายจิต ก็จะพบใจที่ไม่อาจคิด ไม่อาจปรุงแต่งได้ เรียกว่าพุทธะ ซึ่งไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มีตัวตน
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2560