ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ เมื่อวานนี้ได้ฟังคำสั่งสอนของหลวงตา ทำให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเจ้าค่ะ
* ไม่มี - มี - ไม่มี
จากที่ไม่มีเราในโลกนี้ ก็เกิดการรวมธาตุทั้ง 4 จากพ่อกับแม่จนเป็นวิญญาณขันธ์ แล้วตามด้วยวิญญาณธาตุ จนเกิดมาเป็น “เรา” จนถึงวันนี้และจนถึงวันตาย แล้วจะมีอะไรหละ ? “เรา” ไม่มี จริง ๆ เป็นแค่การรวมกันของธาตุเท่านั้น แล้วทำไมยังมามัวยึดถือกันอยู่
* วิญญาณขันธ์ - วิญญาณธาตุ
วิญญาณขันธ์ ก็คือขันธ์ห้าของเรานั้นเอง รูป เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ ที่บอกว่า “ของเรา” ก็เพราะว่าเป็น “เรา” ที่ยึดถืออยู่นั่นเอง รูป (ร่างกาย) หรืออายตนะภายใน ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ รับรู้อายตนะภายนอก รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และธรรมารมณ์ หรือ “สิ่งที่ถูกรู้” แล้ววิญญาณหรือที่เรียกว่า “เรา” ก็เกิด เวทนา สัญญาและสังขาร คิดปรุงแต่งไปตามนิสัยหรือสันดานที่สั่งสมกันมาของแต่ละคน
วิญญาณธาตุ ก็เกิดมาพร้อมกันกับวิญญาณขันธ์หรือ “เรา” แต่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน เพราะเรารู้จักแต่ “เรา” ซึ่งเป็นผู้คิดปรุงแต่ง ไม่เคยรู้จักวิญญาณธาตุหรือ “ผู้รู้” ซึ่งมีหน้าที่ “รู้” เท่านั้น รู้ รู้และก็รู้ “รู้” ทุกอย่างที่เรา “ปรุงแต่ง” ไม่ว่าเราจะปรุงแต่งหรือคิด หรือทำอะไรทุกอย่าง “ผู้รู้” จะรู้ทุกอย่างของ “เรา” ไม่ว่าจะเป็นความลับสุดยอดแค่ไหน
* ผู้รู้ไม่พูด
จนได้มาพบพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย ท่านได้เมตตาสั่งสอนให้รู้จัก “ผู้รู้” ให้รู้ว่านอกจาก “เรา” ผู้ปรุงแต่งแล้ว ยังมีผู้รู้ที่รู้ทุกคิดที่สังขารปรุงแต่ง แต่ “ผู้รู้ไม่พูด” ผู้รู้ไม่ทำอะไรทั้งนั้นนอกจาก “รู้” ทางพ้นทุกข์ก็คือ ต้องอยู่กับผู้รู้ ให้รู้ทุกอย่างที่คิดหรือที่ปรุงแต่งอย่าง “กัดติดจดจ่อหรือไม่ทิ้งรู้” ด้วยความเป็นกลาง หรือที่หลวงตาสอนอยู่บ่อย ๆ ว่า “รู้ซื่อ ๆ”
* ของตาย ของไม่ตาย
วิญญาณขันธ์ซึ่งเป็นธาตุมารวมกันที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป จัดเป็น “ของตาย” เพราะเกิด ดับอยู่ตลอดเวลา ทำหน้าที่ปรุงแต่งหรือคิด ส่วนวิญญาณธาตุทำหน้าที่รู้ คิด - รู้ คิด - รู้ คิด - รู้ มันจะเกิดขึ้นอย่างนี้ตลอดเวลาและตลอดไปที่เรายังมีชีวิตอยู่ หน้าที่ของเราคือไม่ว่าวิญญาณขันธ์หรือ “เรา” จะคิดหรือปรุงแต่งอะไรก็ตาม ให้วิญญาณธาตุหรือ “ผู้รู้” เขาทำหน้าที่รู้ของเขาไป ซึ่งผู้รู้นี้จัดเป็น “ของไม่ตาย” เพราะจะตามติดเราไปตลอดทุกภพทุกชาติจนกว่าเราจะพ้นทุกข์ไปเป็นความว่างในจักรวาล
ผู้ปฏิบัติผู้ไปหลงคิดว่าเป็นตัวเรา เป็นตัวตนของเราก็เหมือนกำลังอยู่กับ “สิ่งที่ถูกรู้หรือของตาย” หรือจะอยู่กับ “ผู้รู้หรือของไม่ตาย” เราต้องคิดได้เอง.....
กราบเท้าหลวงตาด้วยความเคารพอย่างสูงสุดเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560