ผู้ถาม : การที่เราจะรู้อะไรนั้น ย่อมมีเหตุแห่งการกระทบจึงจะรู้ได้ เมื่อรู้ได้แล้ว สุขก็ดีหรือจะเป็นความทุกข์ก็ดี ผู้มีสติขณะใดขณะหนึ่ง ก็ควรกำหนดรู้ว่าอะไรมากระทบที่ทำให้เรารู้ แล้วก็กำหนดรู้สิ่งที่มากระทบนี้อีกทีว่ามันดับหรือยัง ถ้าเรามีสติไม่ลืมหลง เราจะเห็นสิ่งที่มากระทบนั้นมันดับทันที เพราะความจริงมีอยู่ว่า เกิดที่ไหนก็ดับที่นั่น ดังนั้นใจก็จะรู้และเห็นความไม่เที่ยง เมื่อใจรู้และเห็นความไม่เที่ยง ไม่มีตัวไม่มีตนถือครองไม่ได้ใจก็จะละได้เอง ผมเข้าใจถูกไหมครับหลวงตาครับ
หลวงตา : ถูกแล้ว ให้เพียรเห็นความไม่เที่ยง ไม่มีแก่นสารสาระ เป็นทุกข์ ทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้ ไม่มีตัวตนคงที่ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ไม่มีตัวตนของเราอยู่ในตัวเรา ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งสิ่งที่มากระทบแล้วเอาเข้ามาคิดปรุงแต่งในใจ เป็นเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาตามเหตุปัจจัย สิ่งทั้งหมดนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดาเมื่อสิ้นเหตุปัจจัย “ยังกิญจิ สมุทยธัมมัง สัพพันตัง นิโรธธัมมันติ”
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2560