ผู้ถาม : กราบนมัสการเจ้าค่ะ หลวงตา การที่เกิดผัสสะอย่างต่อเนื่องมากบ้างน้อยบ้างในช่วงเวลาดำเนินชีวิตแต่ละวัน บ้างครั้งก็มีเผลอ บางครั้งก็เพ่ง บางครั้งก็ขึ้นขบวนรถไฟไปด้วยเลย รู้สึกตัวได้ก็โดดลง ค่อยดูและให้รู้สึกตัวให้มีสติ ทีนี้เวลาเกิดผัสสะถี่ ๆ ในกิจกรรมที่ทำเกิดความทุกข์ รู้ไม่ทันทำให้ขาดสติ มีการพร่ำบ่นอยู่ภายใน เกิดอะไรขึ้น มึนงง อึดอัด อีกส่วนหนึ่งระลึกถึงคำสอนของหลวงตา จิตเหมือนมดลูก สิ่งที่เกิดเหมือนเด็กในครรภ์ เกิดแล้วคลอดออกไป เมื่อเด็กคลอดออกไปแล้ว มดลูกก็ว่างเปล่า เมื่อนึกถึงตรงนี้ร่างกายค่อย ๆ คลี่คลาย บางช่วงมีอาการเย็นซ่านไปทั่วตัวแล้วก็จางหายไป การพิจารณาเช่นนี้เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ กลัวหลงทางเจ้าค่ะ กราบสาธุในความเมตตาของหลวงตาเจ้าค่ะ
หลวงตา : ถูกต้องแล้ว ขณะจิตปัจจุบันที่ปล่อยวางสิ่งที่รู้ ที่เห็น ที่สัมผัสได้ไปเสีย ใจก็เป็นธรรมชาติที่ว่างเปล่า ไม่มีอาการเกิดดับ สิ่งที่ดับไปมีแต่สังขารและการหลงยึดถือ ขณะจิตที่ปล่อยวาง จึงรู้ได้ที่ใจ ว่าว่างเปล่า เบา สบาย ต่อไปก็ให้จิตได้จดจำเรียนรู้อย่างนี้ไว้ตลอดเวลา ว่าถ้าหลงยึดถือก็ทุกข์หนักแน่นทึบ ถ้าปล่อยวาง ใจก็ว่างเปล่า สิ่งที่เกิดดับ มีแต่สังขารและความหลงยึดถือเท่านั้น เหมือนเด็กในครรภ์ที่เกิดแล้วคลอดออกไป แต่ใจคงว่างเปล่าตามธรรมชาติปกติของเขาอย่างนั้น
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2560