ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ โยมติดตามอ่าน และ ฟัง ธรรมที่หลวงตานำมาถ่ายทอด มาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว มีความเข้าใจเป็นอย่างดี อย่างไม่มีข้อสงสัย และปฏิบัติตามได้ พ้นทุกข์ได้จริง ถ้าเวลานั้นเรามีสติ ตื่นรู้ ทุกขณะที่มีสติ เรื่องที่จิตปรุงอยู่ก็ดับไป และปล่อยวางไป เห็นว่านั่นเป็นธรรมชาติของจิต เข้าใจอย่างนั้น และไม่ไปค้นหา ไปดู ไปอยากรู้สภาวะ ไม่มีคำถาม แค่วางไปเฉย ๆ อยู่กับสติ ...... สักพักหนึ่ง จิตเขาจะทำเรื่องของเขาต่อไป … เห็นแล้ว … ก็วางไป … วนเวียนอยู่อย่างนี้ ... ปรุงทุกข์ ปรุงสุข ก็ยอมรับเฉย ๆ และวางไปเจ้าค่ะ ความเข้าใจในธรรมะ … ธรรมชาติในตัวเราเอง ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติของ คน สัตว์ สิ่งของที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา ด้วยจิตใจ ที่อ่อนโยนมากขึ้น ทำให้เรามีความเมตตาต่อคนรอบข้างมากขึ้น และใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมากเลยเจ้าค่ะ
โยมได้มีโอกาสส่งการบ้านกับหลวงตาที่ศาลาธรรมเมื่อเดือนที่แล้ว หลวงตาบอกว่า *เก่งนะ แค่ติดตามจาก youtube ยังทำได้ขนาดนี้* (โยมแอบยิ้มในใจนิดหนึ่งเจ้าค่ะ) แต่วันนี้ โยมมีคำถามเรื่อง *กรรม* อยากให้หลวงตา เมตตาช่วยตอบด้วยเจ้าค่ะ คือว่า....
- ทำอาชีพเลี้ยงสัตว์ทะเล กุ้ง ปู ปลา เพื่อขาย .... เป็นกรรม … เราจะพ้นกรรมนี้ได้อย่างไรเจ้าคะหลวงตา
- ที่นา ที่เลี้ยงสัตว์ผืนนี้ เป็นของโยม แต่พี่ ๆ น้อง ๆ เป็นคนทำ ..... มันจะกลายเป็น กรรม ทั้งเผ่าพันธ์ุ หรือเปล่าเจ้าค่ะ
กรรมในใจเรา คือ สิ่งที่เรายึดติดไว้ คือ มีตัวเราเข้าไปยึด เราถึงต้องรับกรรมนั้น ถ้าเราปล่อยวางในขณะที่จิตปรุงความเป็นกรรมในขณะจิตนั้น ๆ เราจะพันจากกรรมที่สัตว์มากมายต้องตายในที่นาของเราหรือไม่เจ้าค่ะ ขอหลวงตาได้โปรดชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ โยมไม่ต้องการสร้างกรรมเพิ่ม โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และต้องการพ้นทุกข์ในชาตินี้เจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณองค์หลวงตาที่มีเมตตา และเสียสละมากมายให้กับลูกศิษย์ทุก ๆ คนทั่วโลก ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั่วทั้งจักรวาล รักษาขันธ์ของหลวงตาไว้ตราบนานเท่านานเจ้าค่ะ
หลวงตา : 1. ต้องเลิกทำบาปกรรมตั้งแต่ปัจจุบันเป็นต้นไป
- กรรมเก่าไม่นำมาติดจิตปัจจุบัน
- ไม่หลงส่งจิตออกนอกไปติดยึดสิ่งใด
ไม่สยบติดอยู่กับเวทนาหรืออารมณ์
ไม่หลงยึดถือขันธ์ห้าว่าเป็นตัวตนคงที่ เป็นเรา ตัวเรา หรือ ของเรา
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2561