ผู้ถาม : กราบนมัสการค่ะหลวงตา หนูขอส่งการบ้านค่ะ ล่าสุดหนูทุกข์หนักมากเลยค่ะ ดิ้นรน ค้นหา อยากจะเข้าใจ จนสับสนวุ่นวาย มีความทะยานอยากจะเข้าใจและทำให้ได้ตามสิ่งที่ครูบาอาจารย์สอนและให้ปฏิบัติตาม
หนูหาสารพัดวิธีที่จะเข้าใจให้ได้ พอยิ่งทำไม่ได้ ไม่เข้าใจยิ่งทุกข์หนักสาหัสมากจนถึงขั้นถอดใจ เรามันบุญน้อยไม่มีปัญญาคงไม่มีวันเข้าใจอะไร พาลฟุ้งซ่านอาการหนัก ทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นที่อวิชชา
“มีเรา ... อยาก … จะทำให้ได้อย่างที่ครูบาอาจารย์ที่เคารพรักสอนมา ... เรา เรา เรา เรา .... จนลืมสนิทเลยเลยว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร เราทำทุกอย่างยกเว้น … ปล่อยวาง … แบกอวิชชาไว้เหนือหัวแบบไม่รู้ตัว และแล้วกลับมาคำเดิมเลยค่ะ
เพียรหา เพียรส่อง
เพียรทำ ไม่พบ
เลิกทำ จึงพบ
จบที่ใจ
หนูโง่มากเลยค่ะ วนไปวนมากลับมาจุดเดิมเลยค่ะ สุดท้าย … หยุด … ปล่อยวาง … จะปล่อยวางจริงหรือมีอาการอยากจะปล่อยวางก็แค่รู้ รู้จริงหรือรู้ไม่จริงก็ไม่ได้คิดว่าถูกหรือผิด อะไรที่เป็นอาการมันสังขารหมด มันทำงานของมันเอง ทำอะไรไม่ได้เลย
ได้แค่รับรู้และปล่อยวาง คือปล่อยวางตัวที่คอยไปรับรู้โน่นนี่นั่น ตอนนี้ปฏิบัติแบบนี้ถูกต้องไหมคะหลวงตา หนูมีตรงไหนที่เข้าใจเพี้ยน ๆ อยู่ อันไหนยังไม่ถึงธรรมเป็นแค่การกระทำ แล้วควรเพียรตรงไหนต่อ หนูขอกราบหลวงตาเมตตาชี้แนะสั่งสอนด้วยค่ะ
ขอก้มกราบหลวงตาด้วยใจเคารพบูชาอย่างที่สุดค่ะ
หลวงตา : สูงสุด กลับคืนสู่สามัญ
คือ ดิ้นรนค้นหาแทบตาย (สังขาร - ปรุงแต่ง) สุดท้ายก็จบลงที่หยุดดิ้นรน (วิสังขาร - ไม่ปรุงแต่ง)
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561