ผู้ถาม : กราบนมัสการองค์หลวงตาค่ะ เมื่อวานมีความทุกข์ซึ่งเกิดจากคนใกล้ตัว แล้ววันนี้ได้ฟังไฟล์ของหมอกอล์ฟซึ่งตรงสิ่งที่เพิ่งเกิดพอดี ( ถ้าฟังก่อนหน้านี้อาจไม่ถึงใจเท่าวันนี้ค่ะ)
หลวงตาให้ขอบคุณอวิชชา, ความทุกข์ และคนรอบข้างที่ทำให้เราได้เห็นทุกข์ เลยทำให้เข้าใจธรรม
เข้าใจตามที่หลวงตากล่าวเลยค่ะว่า ทุกข์มีอยู่แต่ไม่มีผู้ทุกข์ ถ้าผลักไสทุกข์ก็จะยิ่งทุกข์
ทุกข์สุขก็มีค่าเท่ากัน แต่ถ้าไม่เห็นเรามักจะเกลียดทุกข์รักสุข เข้าไปกระทำ มีผู้เสวยอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้เห็นตามความเป็นจริงว่ามันก็เป็นของเกิดๆ ดับๆ.. ทำให้ต้องการวิสังขาร ผลักไสสังขาร โดยบางทีก็ไม่รู้ตัวค่ะ
คราวก่อนติดอาการโปร่งโล่ง ก็ได้อ่านคำสอนของหลวงตาเพื่อช่วยนำทางเช่นกันค่ะ
แม้จะอยู่ห่างไกลหลวงตา แต่ก็ได้คำสอนของหลวงตาผ่านทางไลน์ คอยชี้แนะประคองไม่ให้ตกทาง และรู้สึกมีกำลังใจมากเมื่อได้ฟังคำสอนของหลวงตาค่ะ ไม่ทราบว่าหลวงตามีอะไรแนะนำเพิ่มเติมมั้ยคะ
กราบขอบพระคุณในความเมตตาไม่มีที่สุดไม่มีประมาณขององค์หลวงตาที่มีต่อเหล่าลูกศิษย์ทุกคนนะคะ อนุโมทนากับทีมงานที่ทำให้เข้าถึงคำสอนของหลวงตาผ่านสื่อต่างๆ ได้ง่ายๆ เลยค่ะ ขอให้ธาตุขันธ์องค์หลวงตาแข็งแรงๆนะคะ กราบนมัสการองค์หลวงตาค่ะ
หลวงตา : ยังหลงยึดถือสังขาร หรือขันธ์ห้า ว่าเป็นเรา ตัวเรา หรือของเรา มีความพยายามจะเอาตัวเราออกจากทุกข์หรือหนีทุกข์ไปหาความสุขอยู่ ในปัจจุบันนี้ให้มีสติปัญญารู้เท่าทันความหลงไปเป็นสังขารในขณะจิตปัจจุบันนี้ ถ้าหลงไปตามสังขารคือความคิดปรุงแต่ง จะหลงว่ามีตัวเราติดอยู่ในทุกข์ และจะมีความพยายามที่จะเอาตัวเราออกจากทุกข์ ยิ่งเป็น
อวิชชาซ้อนอวิชาไปเรื่อยๆ มันจะยิ่งทำให้เป็นทุกข์ใหญ่ ความจริงไม่มีตัวตนของเราตั้งแต่แรก จึงไม่มีตัวตนของเราติดอยู่ในทุกข์ หรือความทุกข์มีอยู่แต่ไม่มีตัวเราเป็นทุกข์ หรือไม่มีตัวเราไปยึดถือความทุกข์นั้นให้เป็นความทุกข์ขึ้นมาอีก
ถ้ายังมีความเห็นผิดว่ามีตัวเราอยู่ในความรู้สึก ก็จะมีตัวเราออกไปรับการกระทบ เรียกว่าไปยึดถือให้เป็นทุกข์ ทุกอย่างที่เป็นอยู่นั้นต้องสิ้นตัวตนของเราในความรู้สึก จึงไม่มีตัวเราออกรับการกระทบให้เป็นทุกข์
ให้มันรู้ให้มันเห็น แต่อย่าพยายามทำให้มันเป็น เรียกว่า"สักแต่ว่า"
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561