ผู้ถาม : กราบนมัสการท่านพระอาจารย์เจ้าค่ะ อยากกราบเรียนท่านพระอาจารย์เรื่องการปฏิบัติธรรม ฝึกฝนการภาวนาแบบไม่พักไม่เพียร และข้อสังเกตที่เห็นเจ้าค่ะ
หลายวันมานี้ มีสภาวธรรมที่เริ่มชัดเจนขึ้นเจ้าค่ะ คือ เช่น เวลาตื่นนอนใหม่ ๆ พอรู้สึกตัว โดยปกติก็จะเริ่มรับรู้ การเคลื่อนไหวของลมหายใจเข้าออก เพราะฝึกจนเคยเจ้าค่ะ รับรู้ไป ๆๆ สักพัก จะเริ่มมีการรับรู้เวทนาที่มาปรากฏ (ซึ่งมันมีอยู่ประจำในหัวเจ้าค่ะ)
และก็สามารถเห็นสภาวะลักษณะเฉพาะของเวทนาที่แปรเปลี่ยนไปด้วยในบางครั้ง แต่พอสติและสมาธิที่รับรู้การเคลื่อนไหวของลมหายใจมันมีกำลังมากขึ้น กลับเห็นว่าการรับรู้เวทนานั้น มันแค่รับรู้ รู้แล้วผ่านออกไป ผ่านออกไป เหมือนไม่มายึดติดกับใจ (เหมือนเมื่อก่อนๆ)
ความรู้สึกของทุกขเวทนาที่เคยติดอยู่ในใจว่า เป็นเราทุกข์ มันหาย ๆๆ จาง ๆๆ ออกไป เรื่อยไป บางครั้งและหลาย ๆ ครั้งดูมันไกลออกไปทุกทีเจ้าค่ะ เหมือนแยกส่วนกันไปเลย...
อีกเดี๋ยวก็จะมีความคิดปรุงแต่งขึ้นมาสลับ ๆ กันไป เมื่อใดกำลังสติสมาธิที่รู้ลมหายใจแก่กล้าขึ้น เมื่อนั้นทั้งเวทนาและความคิดปรุงแต่งมันแค่เกิดขึ้นมา แล้วออกไป... คือไม่หลงไปตามมัน
และที่น่าสังเกตคือว่า อะไรที่มันเกิดขึ้นมาในใจ มันดูห่างออกไปจากใจ เหมือนแผ่นดินแยกกัน ไม่มาเป็นเนื้อเดียวกันแล้วเจ้าค่ะ... (คล้าย ๆ กับสภาวธรรมแบบที่ท่านบอกว่าเป็นตทังควิมุตติเจ้าค่ะ)
คือจะเห็นสภาวธรรมแบบนี้เป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะตอนมีสติและสมาธิที่ตั้งมั่น เช่น ตื่นนอนใหม่ หรือฟังธรรมท่านพระอาจารย์ หรือขับรถ (เพราะปกติขับรถค่อนข้างเร็ว จึงจะชินกับการที่ต้องมีสมาธิตั้งมั่นเจ้าค่ะ) แต่เวลาทำกับข้าว ทำงานบ้าน จะเห็นสภาวธรรมแบบนี้น้อยกว่าเจ้าค่ะ
สภาวธรรมแบบที่แยก ๆ ออกไปแบบนี้ คือสภาวธรรมแท้ที่ถูกต้อง หมายถึงข้ามผู้รู้ที่เป็นเราไปแล้วหรือเปล่าเจ้าคะ
หลวงตา : ยังมีตัวเรา (อัตตา) ที่พยายามข้ามผู้รู้
ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565