ผู้ถาม : กราบเรียนหลวงตา
วันนี้ผลเพาะเชื้อออกมา ติดเชื้อในกระแสเลือด และติดเชื้อในหลอดเลือดเทียมที่ทำไว้สำหรับเป็นที่ให้ยาเคโมเจ้าค่ะ
หมอมาบอกว่า ต้องไปผ่าตัดเอาอุปกรณ์ที่ติดเชื้อออกด่วน ในวันพรุ่งนี้ เลยรู้เลยเจ้าค่ะ ว่าที่ผ่านมาคิดผิดมหันต์
คิดว่า ตัวเองมีสิทธิการรักษา มีเงิน เป็นหมอ ได้รับการรักษาอย่าง premium จะได้เปรียบคนอื่น ไม่ต้องเจ็บโดนแทงเส้นเหมือนคนอื่นๆ เพราะมีอุปกรณ์ให้ยาเคโมแบบสบายๆ แล้ว ให้ยาแบบชิวๆ
มีตัวช่วยทุกอย่าง ทั้งการรักษาอย่าง premium มีหมอที่เก่งที่สุด อุปกรณ์อย่างดีที่สุด แถมมีหลวงตา มีน้ำมนต์หลวงตา แล้วจะหนีพ้น จากความทรมาน ทำให้ทรมานน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
พอมาพิจารณาย้อนหลัง ว่านี่เราคิดว่ามีเงิน มีตำแหน่งหน้าที่การงานดี มีครูบาอาจารย์ดี แล้วจะชดใช้กรรมน้อยกว่าที่ควรจะเป็นอย่างนั้นหรือ?
มันเป็นมิจฉาทิฐิ อย่างแรงเลยเจ้าค่ะหลวงตา
แล้วสิ่งที่ปรากฏในรอบนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจน ว่าไม่มีใครหนีกรรมพ้น
รอบนี้เจ็บตัวยิ่งกว่าเก่า มันคือสิ่งที่ต้องโดนในสามรอบที่ผ่านมา (แต่หลบหลีกด้วยความ premium ของเรา) มันกลับมาโดนรวมกันในรอบนี้หมดเลยเจ้าค่ะ
แต่ลูกคิดว่า ทุกสิ่งที่เกิดมันมีจังหวะเวลาของมัน สิ่งที่เป็นตัวช่วย เค้าช่วยในช่วงเวลาที่ใจยังไม่เข้มแข็ง ยังหลีกหนีความเจ็บปวด และทุกข์เยอะถ้าไม่มีตัวช่วยใดเลยในตอนนั้น
แต่วันนี้มันไม่เหมือนกันเจ้าค่ะ มันพร้อมรับรู้ทุกสิ่งตามความเป็นจริง และยอมรับเวทนาด้วยความเป็นกลางทั้งหมด
แล้วก็รู้สึกว่าความเจ็บของการโดนแทงเข็มนั้น มันช่างชัดเจนมากจริงๆ แต่มันไม่ได้ว่าอะไรเลยเจ้าค่ะ
ทุกคนถามว่า เจ็บมั้ย ก็บอกว่า เจ็บสิ แต่ไม่มีอะไรหรอก แทงไปเถอะ แล้วก็ชวนเขาคุยต่อ
พรุ่งนี้ต้องไปห้องผ่าตัด ผ่าตรงหน้าอกอีกเจ้าค่ะ แต่ครั้งนี้เค้าไม่ดมยาสลบให้ ถ้าเป็นสามเดือนก่อนลูกโวยวายแล้ว ว่ายังไงจะขอคิวดมยา จะปล่อยให้เจ็บได้ไง แต่รอบนี้ มันก็ไม่ได้โวยวายอะไรเลย
ทุกอย่างแค่รับรู้รับทราบเท่านั้นเจ้าค่ะ
หลวงตา : โอกาสทอง
ต้องยอมรับตามความเป็นจริงว่าเกิด ก็ต้องมาเจ็บ มาตาย มาทุกข์อย่างนี้อยู่ร่ำไป
ถ้ายังอยากเกิดอีกต่อๆ ไป……
ก็ต้องมาทุกข์กับการเกิด การเจ็บ การตาย การพลัดพราก เป็นทุกข์ร่ำไป
ไม่เกิด จึงไม่ต้องมาแก่ มาเจ็บ มาตาย เป็นทุกข์อีก
ถ้าใจยังไม่ยอมรับตามความเป็นจริง ยังกลัวตาย แล้วจะบอกสอนจากใจได้อย่างไร
ไม่มีใครหนี “สัจธรรม” ความจริงนี้ไปได้
ถ้ามี “สังขาร” ก็ตกอยู่ภายใต้อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติไม่เกิดดับเท่านั้น จึงพ้นจากอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาได้
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเป็นธรรมดา
ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะหลวงตา หลวงตาพูดถูกแล้วเจ้าค่ะ
หลังจากส่งการบ้าน ไปทำพลังลมปราณต่อ ทุกสิ่งมันเหมือนจะสูญเสียการควบคุมไป ไม่สามารถควบคุมลมหายใจ หรือพลังลมปราณได้เจ้าค่ะ และพลังภายนอกมันไหลบ่าเข้ามาเต็มไปหมด มันคุมไม่ได้เลย
ภายในน้ำมันมีพลังมหาศาลหมุนวนอยู่ และเหมือนจะทะลายระเบิดออกทุกทิศทาง ลูกไม่รู้มันคืออะไร
แต่ลูกฝืนมันอยู่ ใจลึกๆ มันกลัว กลัวการระเบิดที่ควบคุมไม่ได้นั่นเจ้าค่ะ
หลวงตา : จะฝืนทำไม จะกลัวอะไร อย่างมากก็แค่ตายแล้วจบ
ถ้าความตายยังไม่กลัวแล้ว มันจะไม่กลัว ไม่กังวลอีกเลย
ผู้ถาม : เข้าใจแล้วเจ้าค่ะหลวงตา
โอกาสทอง มันคือไม่ใช่โอกาสธรรมดา ปรากฏขึ้นมาสักครั้ง คือ มีค่าประดุจทองคำ
ลูกพลาดโอกาสนั้นไปเพราะรู้สึกว่า “ไม่พร้อม” ขอเวลาอีกหน่อย ขอทำใจอีกแค่นิดเดียว
แต่คำพูดของหลวงตา โผล่ขึ้นมาเตือนสติว่า “แล้วจะพร้อมเมื่อไหร่” ธาตุขันธ์มันพร้อมจะดับอยู่ทุกเมื่อได้อยู่แล้ว พรุ่งนี้จะรอดจากห้องผ่าตัดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่ก็ยังจะขอต่อเวลาอีก แค่เพราะกลัวที่จะอยู่กลางพายุนั่น
กราบขอขมาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ สาธุ สาธุ
กราบขอขมาต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา ถูกต้องตามธรรมอันประเสริฐแล้ว จะได้ไม่มีอะไรติดค้างอีกต่อไป
ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 4 พฤศ่จิกายน 2564