ผู้ถาม : น้อมกราบนมัสการองค์หลวงตาครับ
กราบเรียนองค์หลวงตาว่า ได้รับการอบรมธรรมจากองค์หลวงตาและปฏิบัติธรรมมาจนปัญญาเห็นว่า ผู้รู้มันรู้อยู่ตลอดเวลา ส่วนสิ่งที่ถูกรู้ ไม่ใช่เราเลยขอรับ (หากมีสติอยู่ โดยไม่หลง)
จะเห็นผู้รู้ตลอดเวลาเลยขอรับ มันจ้าอยู่อย่างนั้น แต่สิ่งที่ถูกรู้เกิดดับตลอด ต่างจากผู้รู้มันรู้อยู่อย่างนั้น ไม่ว่าอะไรจะผ่านมามันเห็นหมด แต่ไม่จับยึดสิ่งนั้น
กราบเรียนองค์หลวงตาว่าผม ปฏิบัติถูกหรือไม่ครับ และเมื่อผมอ่านหนังสือของลุงหวีด มันชัดมากเลยขอรับ ผมกราบเรียนองค์หลวงตาว่าผมปฏิบัติถูกหรือไม่ขอรับ และถึงจุดนี้ผมต้องปฏิบัติต่ออย่างไรขอรับ น้อมกราบขอความเมตาขอรับ
หลวงตา : สักแต่ว่ารู้ แต่ไม่ยึด “รู้”
ผู้ถาม : น้อมกราบองค์หลวงตาในความเมตาขอรับ สาธุๆๆ ขอรับ
กราบองค์หลวงตาครับเข้าใจแล้วครับ ธรรมทั้งหลายมีอยู่ แต่ไม่มีผู้ยึดถือ ทั้งสมมุติและวิมุตติ เป็นธรรมชาติที่เป็นอยู่เช่นนั้นนับแต่อนันตการ มันเป็นของมันเช่นนั้นเอง จะมีอยู่หรือไม่มีอยู่ ก็เป็นเหตุและผลในตัวของมันเอง เราคือนกที่อิสระจากต้นไม้และท้องฟ้า ใช่ไม๊ครับองค์หลวงตา คือไม่ได้เป็นทั่งต้นไม้และท้องฟ้า
น้อมกราบขอขอมากรรมองค์หลวงตาที่รบกวนขอรับ
หลวงตา : ไม่ใช่เรา คือ นกที่อิสระ
แล้วแต่ “ธรรมธาตุ” เป็นอิสระจากความหลงยึดเป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2564