ผู้ถาม : จากครั้งที่แล้วหลังจากส่งการบ้านองค์หลวงตาแล้ว ก็กลับไปเพียรและบอกเล่าสภาวธรรมกับพี่ท่านหนึ่ง พี่เค้าบอกว่า หนูเอากายเป็นตัวล่อเพื่อดูอาการของจิต พี่เค้าแนะนำให้พิจารณาความเป็นจริงของร่างกาย โดยพิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ซึ่งเป็นสิ่งภายนอกที่เห็นได้ชัด ไม่ต้องใช้มโนนึก หนูจึงได้พิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ในแง่มุมของไตรลักษณ์
ความเป็นจริงของผมคือ ตอนเราเกิด เราก็ไม่มีเส้นผม เมื่อได้รับการเติมธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ จนเหตุปัจจัยพร้อม ผมก็เริ่มงอกออกมาเป็นเส้นละเอียดอ่อนนุ่ม เมื่อโตขึ้นเส้นผมเริ่มหยาบขึ้น จนเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แก่ชรา จากผมที่ดกดำก็กลายเป็นหงอกขาว จากผมที่ดกหนาก็กลายเป็นเบาบางลง แล้วเส้นผมก็มีการเกิดขึ้น-ดับไปอยู่ตลอดเวลา เส้นผมเก่าร่วงไป เส้นผมใหม่เกิดแทนที่
กระบวนการที่ว่านี้ไม่มีเราอยู่ตรงไหนเลย มันเกิดเอง เป็นเอง ถ้าผมนี้เป็นเรา เป็นของเราจริง เราต้องสามารถบังคับบัญชามันได้ว่า จงอย่าหงอกเลย จงอย่าหลุดร่วงเลย ถ้าผมเป็นของเราจริง เราต้องรู้สิว่าหลุดร่วงไปเมื่อใด งอกใหม่มาเมื่อไหร่
สังขารทุกชนิด จากไม่มีแล้วเกิดมีขึ้นมา ในที่สุดก็ต้องดับสลายไปสู่ความไม่มีดังเดิม ร่างกายนี้ก็เช่นกัน เมื่อถึงควรแก่เวลาก็ต้องตายแตกดับลง ธาตุทั้งสี่ก็ต้องสลายกลับคืนไปสู่ความเป็นธาตุ เส้นผมมีลักษณะหยาบเป็นธาตุดินก็ผุพังสลายกลับไปสู่ดิน
ความเป็นจริงของขนก็ไม่ต่างจากผม
ความเป็นจริงของเล็บคือ เล็บมีการงอกใหม่ตลอดเวลาแบบค่อยเป็นค่อยไปทีละน้อย เมื่องอกยาวแล้วต้องตัดทิ้ง เราไม่เคยรู้เลยว่าเล็บงอกยาวเท่าไหร่อย่างไร เช่นนี้แล้วเราจะบอกได้หรือว่าเล็บนี้เป็นของเรา
สังขารทุกชนิด จากไม่มีแล้วเกิดมีขึ้นมา ในที่สุดก็ต้องดับสลายไปสู่ความไม่มีดังเดิม
ร่างกายนี้ก็เช่นกันเมื่อถึงควรแก่เวลาก็ต้องตายแตกดับลง ธาตุทั้งสี่ก็ต้องสลายกลับคืนไปสู่ความเป็นธาตุ เล็บมีลักษณะแข็งเป็นธาตุดินก็ผุพังสลายกลับไปสู่ดิน
ความเป็นจริงของฟันคือ ตอนเราเกิดมาก็ไม่มีฟัน เมื่อได้รับการเติมธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ จนเหตุปัจจัยพร้อม ฟันน้ำนมชุดแรกก็งอกออกมา จนเมื่อถึงควรแก่เวลาก็ทยอยหลุดร่วงไปจนหมด แล้วก็มีฟันแท้ชุดใหม่เกิดมาแทนที่ และฟันแท้เมื่อใช้งานจนถึงที่สุด ก็ต้องหลุดร่วงไปเช่นกัน
กระบวนการเหล่านี้ไม่มีเราอยู่เลย มันเกิดเอง เป็นเอง ดับเอง ถ้าเป็นฟันของเราจริง เราต้องบังคับได้สิว่า อย่าหลุดร่วงไปเลย จงอยู่กับฉันตลอดไป แต่มันก็ไม่ได้ฟังเราเลย แล้วอย่างนี้จะบอกว่าเป็นฟันของเราได้หรือ
อีกอย่างหนึ่งในปากของเรามีทั้งสิ่งสกปรก เชื้อโรคต่าง ๆ กลิ่นปากที่น่ารังเกียจ ถ้าเป็นฟันเป็นปากของเราจริง เราต้องไล่สิ่งน่ารังเกียจเหล่านี้ไปได้สิ แต่สิ่งสกปรกเหล่านี้ก็เกิดเอง เป็นเอง เราทำได้เพียงทำความสะอาด เพื่อไม่เป็นที่น่ารังเกียจเวลาพูดจากับใครเท่านั้นเอง
สังขารทุกชนิด จากไม่มีแล้วเกิดมีขึ้นมา ในที่สุดก็ต้องดับสลายไปสู่ความไม่มีดังเดิม ร่างกายนี้ก็เช่นกันเมื่อถึงควรแก่เวลาก็ต้องตายแตกดับลง ธาตุทั้งสี่ก็ต้องสลายกลับคืนไปสู่ความเป็นธาตุ ฟันมีลักษณะแข็งเป็นธาตุดินก็ผุพังสลายกลับไปสู่ดิน
ความเป็นจริงของหนังคือ ตอนเราเกิด ผิวหนังเหี่ยวย่นแดง ๆ ไม่น่าดู เมื่อได้รับการเติมธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ จนเหตุปัจจัยพร้อม ผิวหนังก็เนียนนุ่มละเอียดน่าจับต้อง จนโตเป็นสาวผิวก็เต่งตึง เนียนใส สวยงาม
แต่เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แก่ชรา ก็เริ่มมีกระ ฝ้า ริ้วรอยเหี่ยวย่น หย่อนยาน เซลล์ผิวหนังก็มีการเกิดดับตลอดเวลา เซลล์เก่าตายลงกลายเป็นขี้ไคล เซลล์ใหม่เกิดมาทดแทน กระบวนการเหล่านี้ไม่มีเราอยู่เลย มันเกิดเอง เป็นเอง หากผิวหนังนี้เป็นเรา เป็นของเราจริง เราก็คงบอกมันว่าจงอย่าเหี่ยวอย่าย่นเลย แต่มันก็ไม่ฟังเรา
สังขารทุกชนิด จากไม่มีแล้วเกิดมีขึ้นมา ในที่สุดก็ต้องดับสลายไปสู่ความไม่มีดังเดิม
ร่างกายนี้ก็เช่นกันเมื่อถึงควรแก่เวลาก็ต้องตายแตกดับลง ธาตุทั้งสี่ก็ต้องสลายกลับคืนไปสู่ความเป็นธาตุ หนังมีลักษณะเป็นมวล เป็นกลุ่มก้อน เป็นธาตุดินก็ผุพังสลายกลับไปสู่ดิน
หนูจะเพียรต่อไปเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ
เพียรให้เห็นสัจธรรมความจริงอย่างนี้ “อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย”
ให้เห็นความสกปรก
ความแก่ เจ็บ ตาย เน่าเปื่อยผุพัง สลายเป็นธาตุดิน ธาตุนำ้ ธาตุลม ธาตุไฟ
มาจากดินกลับคืนสู่ดิน
มาจากน้ำกลับคืนสู่น้ำ
มาจากลมกลับคืนสู่ลม
มาจากไฟกลับคืนสู่ไฟ
ไม่ใช่ตัวตนของเรา
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2562