ผู้ถาม : สังขารปรุงแต่ง... ไม่ว่าจะเป็น “สังขารตัวเรา” หรือ “สังขารนอกตัวเรา” ล้วนเกิดดับ... เกิดดับ เหมือน “ภาพมายา”
รูป เปรียบเหมือน... ฟองน้ำ
เวทนา เปรียบเหมือน... ต่อมน้ำ
สัญญา เปรียบเหมือน... พยับแดด
สังขาร เปรียบเหมือน... แก่นต้นกล้วย คือ ความว่างเปล่า
วิญญาณ เปรียบเหมือน... มายากล
ขันธ์ห้าทั้งรูปและนามนี้ เป็น “ของปรุงแต่ง” ขึ้นมา หาสาระมิได้
ความจริง คือ สรรพสิ่งล้วนเสมือนหนึ่งมีอยู่จริง แต่จริง ๆ แล้ว “ไม่มี”
แม้ปฏิกิริยาความสั่นสะเทือนจากภายในมันจะรุนแรงแค่ไหน มันก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอก.. เหมือนลอกหยวกกล้วยออกทีละชั้น ๆ จนเหลือถึงด้านในสุด... ที่สุดของสังขาร คือ ความว่างเปล่า ที่ไม่อาจถูกกระทบได้ มันคือ “ใจที่ได้แต่รู้”
รอบรู้ในกองสังขาร คือ รู้ว่า... ทุกสิ่งที่หมุนเวียน เปลี่ยนแปลง ดับแล้วเกิด เกิดแล้วดับ ล้วนเป็นของไม่เที่ยง ไม่ขึ้นกับกาลทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ต่อให้รู้แจ้งความจริงนี้ถึงใจ ก็ไม่ทำให้ “สัจธรรมความจริง” นี้เปลี่ยนแปลง
จุดพอดี... จุดที่ไม่หวั่นไหว จุดที่ไร้กิริยาของจิตอวิชชาปรุงแต่ง.. “รู้แจ้งในกองสังขาร ละอุปาทานขันธ์ทั้งห้า”
จุดที่ “รู้เท่าทัน” ยังเป็นกิริยาจิต
จุดที่ “รู้” เท่านั้นแหละ... พ้นจากกิริยา และ พ้นจากทุกข์
หลวงตา :
“จุดพอดี”
“จุดที่ ‘รู้’”
เป็นอวิชชา
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562