ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ ชีวิตนี้น้อยนัก ถูกเวลากลืนกินไปตลอด หนูจะไม่ประมาทเจ้าค่ะ
ช่วงที่เพียรอยู่ที่ปัญจคีรี หนูก็เริ่มด้วยสมถะดูลมหายใจพอลมละเอียด ใจสงบ ก็พิจารณาความตายได้ต่อเนื่องเจ้าค่ะ พอพิจารณาไปสักพักเหมือนกำลังลดลงเพราะเริ่มพิจารณาได้ไม่ต่อเนื่อง จิตผู้รู้ก็เปลี่ยนไปรู้ลมเอง แล้วสักพักจิตผู้รู้ก็มาพิจารณาความตายต่อ พิจารณาอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ต่อเนื่องเจ้าค่ะ
จะมีบางครั้งที่รู้ลมหายใจแล้วสักพักรู้สึกใจเงียบสงบมาก ๆ เหมือนตัวเรายืดยาว แต่ตอนนั้นหนูลองพิจารณาความตายก็ทำไม่ได้ หนูก็เลยถอนออกมาเพื่อพิจารณาความตาย ไม่ทราบหนูทำผิดถูกยังไงหรือเปล่าเจ้าค่ะ
มีตอนที่ลงไปภาวนากันที่บ่อหลังกุฏิหลวงตา หนูรู้สึกถึงความเงียบสงบ เหมือนพื้นที่นั่งเป็นอากาศ และอีกครั้งก็รู้สึกที่ก้นเป็นรูกลวงทะลุลงไปในพื้นดิน ลงไปลึกมาก ดินเป็นรูลงไปเหมือนเอาสว่านเจาะดินลงไป แบบตอนจะปลูกต้นไม้เจ้าค่ะ แต่หนูไม่ได้เจาะนะคะ เค้ารู้สึกลึกดิ่งลงไปเรื่อย ๆ แต่พอดีน้อง ๆ เค้าขึ้นจากบ่อกัน เลยหยุดแค่นั้น
พอเมื่อคืนตอนห้าทุ่มลงไปภาวนาที่บ่ออีก ก็เป็นรูลงลึกจากก้นดิ่งลงไปอีกเหมือนกันค่ะ หนูไม่ได้ตามไปนะคะ ไม่ได้ทำอะไร รู้ตัวอยู่เจ้าค่ะ แบบนี้คือไม่ต้องสนใจใช่มั้ยเจ้าคะ
หลวงตา : ให้มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมในสิ่งที่รู้เห็นในปัจจุบันขณะ ไม่เอ๊ะอ๊ะ ไม่ตื่นตระหนก ไม่เผลอไผลหลงติดไป ไม่ยื้อ
ให้มีความเพียรต่อเนื่องไม่ขาดสายไว้ในใจในทุกปัจจุบันขณะ ไม่ว่าอยู่ในอิริยาบทใด ไม่ว่าจะทำกิจการงานใด อย่าให้นิวรณ์ห้าเข้าแทรกในใจได้
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2562