ผู้ถาม : เหมือนจะฝันไปแต่ไม่ได้ฝัน โยมนอนภาวนา ไปที่ไหนสักแห่ง ในศาลาเขาฝึกสมาธิกัน มีครูฝึก มีหลายคนนั่งในศาลา โยมในฝันมีร่างนั่งข้างหลัง ครูฝึกผู้ชายเดินมาหา มองตาครูฝึก เห็นตาครูฝึกเหมือนหลุมดำของห้วงอวกาศ แล้วโยมรู้สึกเหมือนดิ่งวูบเหมือนตอนที่จะจิตรวม แต่มันไม่วูบหายไป เหมือนออกจากร่างกายในฝัน
เหมือนตอนจิตจะรวมคือจะหลับตา แต่พอออกมาเหมือนลืมตาชัดกว่าเดิม แต่ไม่มีกายในฝัน แต่มันมีคิดพูดพากษ์ ยังคิดพูดว่า เฮ้ย ทำไมมองได้รอบเลย ชัด มีสีสันด้วย เห็นคนในศาลาเยอะ มีพระ มีเณร แต่แว็บเดียว อ้าว มารู้สึกกายตัวที่นอนท่าภาวนา ไอ้ที่พูดได้พากษ์ได้ เป็นกายจิต ขันธ์ตัวสุดท้ายแบบชัด ๆ ใช่ไหมคะ
หลวงตา : แม่นแล้วววว ....
ผู้ถาม : เห็นภาพชัดเจนเลยค่ะว่า อะไรที่เกิดมาในใจ ล้วนไม่ใช่ใจ และไม่มีอะไรเป็นเราเลย เพราะเราไม่สามารถรู้ จับต้อง หรือสัมผัสตัวเราได้ เราได้แต่รู้สิ่งที่ไม่ใช่เราเท่านั้น
กราบขอบพระคุณหลวงตาคะ
หลวงตา : สาธุ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2562