ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาค่ะ โยมไม่ได้ส่งการบ้านนานแล้ว อย่างที่หลวงตาบอก รู้ทุกอย่างแต่ไม่ยึด อาการกระเพื่อมของใจที่อะไรถูกใจ ไม่ถูกใจ การคาดหวังเพื่อให้ได้ดังใจ มันก็มีอยู่ แต่ก็รู้ไปว่า ถูกใจไม่ถูกใจ เพราะคาดหวัง มีเจตนา มีกรรม มีเหตุของทุกข์ ผลคือทุกข์
แม้แต่รู้เหตุ รู้ทุกข์ มันก็ใช่ว่า การกระเพื่อมจะหายไปฉับพลัน แต่โยมรู้อยู่ว่า เดี๋ยวมันก็เปลี่ยนแปลงไป พอใจ ไม่พอใจ มันก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
มีคำถาม การเข้าถึงจิตบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ ชาวบ้านมีครอบครัว จะสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลาหรือไม่ หรือเข้าถึงได้เฉพาะพระอริยเจ้าขั้นอรหันต์ กราบ กราบ กราบ
หลวงตา : ฆราวาสมีครอบครัวก็บรรลุนิพพานได้
ถ้าศีลห้าบริสุทธิ์ถึงจิตที่คิดจะล่วงละเมิดศีลแม้น้อยหนึ่ง นิดหนึ่งก็ไม่มี ศีลข้อสามถือพรหมจรรย์
และมีสติ สมาธิ ปัญญา ศรัทธา ความเพียร ขันติอย่างสม่ำเสมอ
ผู้ถาม : เข้าใจแล้วเจ้าค่ะหลวงตา นิพพานไม่ใช่ เจตสิก ไม่ใช่จิต หรือสิ่งที่เกิดเนื่องจากจิตนั้น
สิ่งที่ปรากฏได้ แม้ในช่วงเวลาของการสิ้นยึดถือ เป็นเพียง "รส" อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น หาใช่ตัวนิพพานไม่
จะดีประเสริฐเพียงใดก็ตาม
เมื่อเสวยรสนั้นแล้ว ก็ได้เพียงรู้ เมื่อรู้และไม่อาจยึดได้ จึงสลัดคืนทุกสิ่งตามธรรมชาติ
ทุกสภาวะที่รู้ได้ คือ เป็นสังขาร จึงเกิดดับเรื่อยไป
ไม่ต้องไปค้นหา สภาวะที่ไม่เกิดไม่ดับอีก เพราะทุกสิ่ง เกิดดับหมดเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2562