ผู้ถาม : กราบนมัสการองค์หลวงตาที่เคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ พิจารณาเห็นแล้วเจ้าค่ะ ที่ยังไม่ขาดพุทธภูมิจริง ๆ (เข้าใจว่าขาดไปแล้ว) เพราะยังหลงเป็นอวิชชาว่ามีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เวียนว่ายตายเกิดจริง
ทั้ง ๆ ที่มีแต่การเวียนวนของธรรมชาติเป็นเช่นนั้นเองตามเหตุปัจจัย จึงถอนอธิษฐานและประกาศออกไป รู้สึกได้ว่า “ฟ้าเปิด”
เกิดปัญญาขึ้นมาว่า… การคิด พูด ทำที่ดี แต่ส่งผลให้ขวางมรรค ผล นิพพาน ย่อมเกิดจากอวิชชาเป็นกิเลส ไม่ใช่เรื่องของสติปัญญา
การหลงยึดถือทั้งความชั่วและความดี ล้วนเป็น “มลทิน” ของใจ
แท้จริงไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
ตลอดการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
มีแต่ “ธรรมชาติ” ที่หมุนเวียนเปลี่ยนผันไปเช่นนั้นเอง
ช่วงนี้ “ทบทวน” อุดรูรั่ว มันประจักษ์ขึ้นมาว่า… “ธรรม” มีอยู่แล้วตลอดเวลา อยู่ต่อหน้าต่อตาเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้ ไม่เคยหายไปไหน มีแต่ใจที่หลง “โลก” จึงทิ้ง “ธรรม” “โลก” มันจึงบัง “ธรรม”
และวันนี้… โลกคงมีอยู่อย่างงั้นแหละ ธรรมคงมีอยู่อย่างงั้นแหละ ไม่ต้องทำลายสิ่งใด มีแต่ “หายโง่” ไม่หลงเห็นเชือกเป็นงู ก็หมดปัญหาแค่นั้นเอง
กราบขอบพระคุณองค์หลวงตาอย่างสูงที่เมตตาหนูมาโดยตลอด และน้อมกราบขอคำชี้แนะ และขอความเมตตาองค์หลวงตาดุด่าว่ากล่าว หากมีสิ่งใดหลงคิด พูด กระทำไปด้วยความมืดบอดด้วยเจ้าค่ะ
กราบ กราบ กราบ
หลวงตา : สาธุ สาธุ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562