ผู้ถาม : กราบนมัสการองค์หลวงตาพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง
สองวันนี้หนูพิจารณาความตาย แต่จิตกลับฟุ้งซ่านหลงส่งจิตออกนอกตลอด เมื่อคืนก็เดินจงกรมตั้งแต่หนึ่งทุ่มเข้านอนเกือบตีสอง พิจารณาความตาย ก็ทำได้อยู่นะคะ แต่หลุดบ่อย ตื่นมาตีห้าครึ่งก็ฟุ้งซ่านต่อ หนูควรทำสมถะดูลมหายใจ จนไม่หลงส่งจิตออกนอกก่อนมั้ยเจ้าคะ หรือหนูทำอะไรผิดพลาดจากธรรม
ขอองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ช่วยเมตตาสั่งสอน ชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ
หลวงตา : ความคิด หรือ อาการของจิตใจ หรือ สังขารในใจตนทุกอย่างไม่ว่าจะถูกใจหรือไม่ถูกใจ เขาเกิดเอง เขาก็ต้องดับเอง ไม่มีตัวเราต้องไปพยายามดับเขา หรือไม่อยากให้เขาคิด
ปล่อยให้เขาเป็นอย่างที่เขาเป็น เขาไม่ใช่เป็นของเรา ไม่ใช่เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา
ที่ใจไม่สงบ เพราะอยากสงบ อยากจะพิจารณากายให้ขาด อยากไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน
ผู้ถาม : เจ้าค่ะหลวงตา มีตัณหานำ พิจารณาหวังผล หนูเห็นแล้วเจ้าค่ะ
พิจารณาให้มาก เค้าจะสงบ จะปล่อยวาง เค้าเป็นเอง ถูกต้องมั้ยเจ้าคะ
กราบในความเมตตาเจ้าค่ะ ลูกศิษย์เพียรปฏิบัติแบบไม่เอาอะไร น้อมถวายบูชาเจ้าค่ะ
หลวงตา : ของเขาเป็นเอง ไม่ใช่มีตัวเราไปอยากให้เขาเป็น หรือ ไปช่วยให้เขาเป็น มันจะยิ่งเป็นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน
ผู้ถาม : เจ้าค่ะ มีตัวเราอยากได้ อยากเป็น เป็นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน เป็นทุกข์มากเลยเจ้าค่ะ
… หลงสังขารเป็นทุกข์เจ้าค่ะ ...
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ ที่เมตตาช่วยเขี่ยกิเลสให้หายโง่เจ้าค่ะ หนูจะเพียรต่อไป สู้ไม่ถอย (แบบไม่เอาอะไรเจ้าค่ะ)
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2562