ผู้ถาม : กราบนมัสการองค์หลวงตาเจ้าค่ะ ขอโอกาสส่งการบ้านเจ้าค่ะ
เสียงแห่งความเงียบ
น้ำไหลนิ่ง
ความบริสุทธิ์ของใจ
ไม่ใช่ใจ สิ่งเหล่านี้เป็นสภาวะที่ถูกรู้ โดยไม่มีตัวตนของผู้รู้
แต่มันพลาดแล้วเจ้าค่ะ มันไม่ทันเห็นวิญญาณขันธ์ตัวสุดท้ายในปัจจุบันขณะ
อันนี้คือ มันขาดสติเลยยึดสภาวะที่ถูกรู้นั้น ว่ามีเรารู้ เราเห็น เราเข้าใจ เรารู้แจ้งแล้ว
จริง ๆ แล้วต้องเห็นด้วยว่า สภาวะที่ปรากฏให้รู้นั้นก็เป็นไตรลักษณ์ใช่ไหมเจ้าคะ สติไม่ทัน มาทบทวนเข้าใจทีหลังจึงเข้าใจค่ะ
การฝึก คือ ต้องมีสติให้ทันทุกปัจจุบันขณะใช่ไหมเจ้าคะ
วันนั้นที่แดรี่ฮัท โยมเข้าใจที่หลวงตาอธิบาย แต่มันเหมือนอยู่ไกล ๆ (อธิบายไม่ถูก) กลับมาบ้านเอาไฟล์เสียงของตัวเองมาฟัง มันก็เข้าใจหมดว่า ตัวที่ส่งการบ้านและร้องไห้ว่ามีตัวโยมผู้ยึดนั้น ก็เป็นสังขารปรุงแต่งว่ามีตัวเราผู้ยึด
แต่ก็ยังไม่ถึงใจเลยยังเป็นแบบอย่างที่เล่าตอนต้นเจ้าค่ะ ครั้นจะถามหลวงตาว่าจะหาวิธีใดแก้ ก็รู้ขึ้นมาทันทีว่าจะมีตัวตนของผู้ไปหาวิธีอีก มันเป็นอยู่แบบนี้
วันนั้น workshop กับอาจารย์มุ้ยก็ดูเข้าใจแล้ว แต่ก็แบบนี้อีกแล้ว ตัวเกินธรรมชาติที่จะโผล่เข้าไปดูก็เห็น
หรือตัวปัญหาคือผู้ที่คิดค้นอยู่ไม่หยุดนี้เอง ต้องเงียบเสียบ้างใช่ไหมเจ้าคะ ขอความเมตตาหลวงตาชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ
มันรู้สึกเสียใจที่ทำให้หลวงตาเหน็ดเหนื่อย มันร้องไห้
แต่ก็แว็บขึ้นมาว่าอาการของจิต มันก็เงียบลงไปแต่มียุกยิก ๆ อยู่
กราบองค์หลวงตาที่มีเมตตาต่อศิษย์ทุก ๆ คน พระคุณนี้ยิ่งใหญ่หาประมาณมิได้เจ้าค่ะ
แต่โยมก็ตั้งใจแล้วว่าจะสู้ไม่ถอย และน้อมเอาคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งตลอดไป จนตราบชีวิตจะหาไม่ กราบเจ้าค่ะ
หลวงตา : ใจยิ่งเงียบ ยิ่งสงบ จะยิ่งได้ยินเสียงดังในใจได้ชัดเจน
แต่จะดังเพียงใด ก็แพ้ใจที่สงบเงียบ
ซึ่งเสียงดังในใจ มันเหมือนดังอยู่ในความสงบเงียบของธรรมชาติจักรวาล
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562