ผู้ถาม : มาถึงจุดของชีวิต ที่เมื่อมองกลับไปในอดีต ไม่เห็นสักอย่างที่สำคัญเจ้าค่ะ มันเลือน ๆ ไปหมด ทั้งในความจำและความหมาย เบาดีนะคะ
ไปกลับอยู่กับ “ผู้รู้” และ “รู้” ซึ่งคล้ายจะเชื่อมกันจนเห็นรอยต่อยาก เมื่อใดที่ตัวตนในผู้รู้ เลือนจางหายกลายเป็น “รู้” ที่เป็นธรรมชาติของมันอยู่
ไม่ว่า “ผู้รู้”จะเข้มข้น หรือจางหาย ก็จะเห็นการเกิดการเปลี่ยนแปร และการดับของความคิด ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะไปยึดอะไรที่ไกลนักกับอดีตหรืออนาคตนั้น
ความตายเป็นเรื่องที่อยู่ในใจบ่อยมากเจ้าค่ะ
นึกถึงอวัยวะ หัวใจ ไส้ พุง และร่างกาย ว่าเหมือนโรงงานที่รับใช้จิต
เครื่องจักรนี้เก่ามากแล้ว เดี๋ยวเสื่อมตรงโน้นเสียตรงนี้ การกินก็เหมือนป้อนน้ำป้อนพลังให้โรงงานทำหน้าที่ของมัน ขณะนี้เป็นอย่างนี้ค่ะ
หลวงตา : “สิ่ง” สิ่งนั้นมีอยู่ แต่ไม่ได้เป็นอะไรเลย ไม่มีอะไรเลย
ไม่มีผู้ได้อะไร ไม่มีผู้เสียอะไร
ไม่ได้มีขึ้นเพราะการเกิด และไม่ได้ดับไปเพราะการตาย
ไม่มีการไป ไม่มีการมา
ไม่ได้เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2562