ผู้ถาม : สาธุ กราบขอบพระคุณหลวงตาเจ้าค่ะ
ทุกสิ่ง เป็นอย่างที่หลวงตาพูดเจ้าค่ะ มันเอาตัวเราไปยึดวิสังขาร
มันเข้าใจว่า ธาตุรู้ คือ "วิสังขาร" "ความว่างเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ" ที่สังขารเกิดดับในมัน
เมื่อเป็นวิสังขาร มันจะไม่เป็นสังขาร ซึ่งถูกต้องแล้วตามความเห็นความเข้าใจ
แต่ในภาคปฏิบัติ มันไม่ได้เป็นอย่างที่มันเข้าใจ จริงอยู่มันเข้าหาผู้รู้ เมื่อมีสติรู้ผู้รู้ สิ่งที่ถูกรู้ ซึ่งหมายเอาว่า เป็น "สังขาร" จะดับไปบ้าง จะอยู่โดยไม่มีใครไปยึดบ้าง จะเบา ไม่มีน้ำหนักบ้าง
แม้ปากจะพูดถูก แต่ใจมันกลับเพียรด้วยความยึดความหลง หลงว่า เข้าหาผู้รู้แล้ว จะ ...
เป็นวิสังขารแล้วจะ ...
ที่มันเบา มันสงบ มันสงัด เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ มันก็ใช่อยู่ แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด ที่มันไม่ใช่ทั้งหมด เพราะมันมีส่วนเกินมา เราผู้มีมิจฉาทิฏฐินั้นเองที่ไปยึดความไม่ปรุงแต่งเจ้าค่ะ
แม้เข้าหาผู้รู้ แม้ดำรงสติ สมาธิอยู่ แต่ถ้ามีเป้าหมายแอบแฝงแม้เพียงนิดเดียว ก็มีส่วนเกินธรรมชาติแล้ว เจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ มันมีผู้ยึดถือ คือ ตัวเรา (อัตตา)
ผู้ถาม : เห็นสิ่งนี้ได้ ตอนที่ฟังไฟล์ที่หลวงตาส่งให้ ที่บอกว่า ที่ไม่มีตัวจิตตัวใจ นั่นแหละ ไม่มีตัวเราไปรองรับ
มันเข้าใจเลยเจ้าค่ะว่าที่ผ่านมา ยังมีมิจฉาทิฏฐิอยู่ คือ ยังเข้าใจว่ามี "ใจ" ที่เป็น "ความว่าง" "เป็นวิสังขาร" "เป็นธรรมชาติรู้" เป็น "ความไม่มี" เป็นอะไรก็ตามแต่ ... แต่ก็เอาเป็นว่า มันยังมีอยู่ก็แล้วกัน มันถึงมีกริยาจิตได้ ยึดได้ วางได้ ดูดได้ ผลักได้ รู้เห็น เข้าใจได้ เห็นธรรมได้ บรรยายธรรมจ๋อย ๆ ในจิตได้
ทั้งหมด มีขึ้นได้ ก็เพราะมี "ใจ" ที่ยึดถือ
แค่รู้แจ้งแก่ใจ ความโง่ก็ดับเลยเจ้าค่ะ
ทุกสิ่ง ทั้งความคิด อารมณ์ จะถูกใจไม่ถูกใจ จะหยาบจะละเอียด จะกิเลส จะธรรม เกิดดับเป็นอิสระเจ้าค่ะ
ไม่มี "ความว่างที่ปรุงแต่งไว้" รองรับอีกแล้ว
พบใจที่แท้จริงแล้วเจ้าค่ะ ครั้งนี้ พบแล้วจริง ๆ กลับบ้านเดิมได้แล้ว ไม่สามารถคว้าอะไรมาแทนใจแล้วเจ้าค่ะ
สภาพภายนอกแปรปรวน ที่แดดออกอยู่ดี ๆ ก็มืดครึ้ม มีลมพัดแรงมาก ต้นไม้ไหวลู่ตามลมพัด เม็ดฝนที่ตกลงมา มีสายฟ้าที่แลบอยู่ลิบ ๆ ไม่ต่างอะไรเลย กับปรากฏการณ์ภายใน เดี๋ยวก็เกิดอย่างนี้ เดี๋ยวก็เกิดอย่างนั้น เดี๋ยวสั้น เดี๋ยวยาว เดี๋ยวหยาบ เดี๋ยวละเอียด เหมือนกันเลยเจ้าค่ะ ปรากฏการณ์ภายใน กับภายนอกเป็นหนึ่งเดียวกัน
กราบขอบพระคุณหลวงตาที่เมตตาลูกมาตลอดเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ สาธุ
ผู้ถาม : ทำไม ขนตาถึงยาวไม่เท่าเส้นผม คำตอบมัน ไม่อาจใช้ความคิดปรุงแต่งใดตอบออกมาได้เจ้าค่ะ หลวงตา คิดอันใดมาตอบ มันก็ไม่ใช่ทั้งนั้น มันหาคำตอบ ไม่ได้เลยเจ้าค่ะ หาไม่ได้เลยจริง ๆ ไม่อาจ "รู้"
มันไม่ใช่ "รู้" นั้น นั่นเองหรอกหรือเจ้าคะ โง่มาตลอดจริง ๆ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562