หลวงตาณรงศักดิ์ ขีณาลโย

  • หน้าหลัก
  • สื่อธรรมะ
    • หนังสือธรรมะ
    • เสียงธรรม
      • เสียงธรรมรายปี
      • ไฟล์เสียงจัดชุด
    • CD
    • e-Book ปุจฉา-วิสัชนา
  • ปุจฉา-วิสัชนา
  • ภาพธรรม
  • วิดีโอธรรม
  • ธรรมทัศน์
  • ธรรมถึงใจ
  • ธรรมโอวาท
    • โอวาทธรรม
      • โอวาทธรรม 60-61
      • โอวาทธรรม 62
        • โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 62
        • โอวาทธรรม เม.ย.- มิ.ย. 62
        • โอวาทธรรม ก.ค. - ก.ย. 62
        • โอวาทธรรม ต.ค. - ธ.ค. 62
      • โอวาทธรรม 63
        • โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 63
        • โอวาทธรรม เม.ย. - มิ.ย. 63
        • โอวาทธรรม ก.ค. - ก.ย. 63
        • โอวาทธรรม ต.ค. - ธ.ค. 63
      • โอวาทธรรม 64
        • โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 64
      • โอวาทธรรมถึงใจ
    • ปกิณกธรรม
    • ประชาสัมพันธ์สื่อธรรม
    • โอวาทธรรมชุด
  • Other Languages
    • English
    • Deutsch

เมื่อพบ “ใจ” การปฏิบัติจะกลับด้านเอง

เมื่อพบ “ใจ” การปฏิบัติจะกลับด้านเอง

 

ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาค่ะ 04:18-05:50 น. ตื่นนอน สติรู้ที่ใจ ไม่ต้องพยายามมาก  แค่ระลึกรู้ตรงจิตหลงคิด จิตก็ทวนเข้า (ฐาน) ใจ จิตรู้ก็ปรากฏ ครั้งแรก ๆ ก็มีเจตนาทวนเข้าหาผู้รู้   แต่พอพบจิตรู้แล้วที่เคยรู้จักแล้ว มันก็ทำต่อเอง คือ พอเห็นจิตหลงคิดเพียงแว็บ มันก็ทวนหาผู้รู้เอง เกิดอาการซูซ่า ๆ นิด ๆ รู้เห็นเช่นนั้นอยู่หลายขณะ แต่ปัญญาเดินต่อไม่ได้ กลายเป็นง่วงหลับ  ตื่นมารู้อย่างนั้นอีก แต่รู้ว่า รู้แบบกระท่อนกระแท่น เบลอ ๆ มัว เพราะอาการง่วงซึมมากกว่า (ถีนมิทธะ) ไม่ผ่องใสไม่ชัดเจนไม่ต่อเนื่องเหมือนครั้งก่อน ๆ ทุกอาการใจก็แค่รู้ อย่างที่มันเป็น ใจไม่ดิ้นรนเดือดร้อน   

 

เมื่อออกจากภาวนานั้นมาแล้วพิจารณาว่า อะไรเป็นอะไร ทำไมเดินปัญญาต่อไม่ได้  รู้ว่า เพราะกำลังสมาธิไม่พอ แล้วพอถึงสภาวะละเอียด ๆ อารมณ์มีไม่มาก เป็นอารมณ์เดิม ๆ ซำ้ ๆ ที่จิตเคยเห็นแล้ว คือ สิ่งที่เกิดและดับ ซึ่งกิเลสคืออวิชชาตัณหา ไม่ชอบ ไม่สนใจ จึงปล่อยอาวุธ  ออกอาการง่วงซึมเบลอมาปกคลุมจิต

   

 

กราบขอคำแนะนำจากหลวงตาค่ะ  ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ

 

 

หลวงตา : เมื่อพบ “ใจ” หรือ ธาตุรู้ที่ไม่ปรุงแต่ง (วิสังขาร) หรือ จิตเดิมแท้ แล้ว

***** การปฏิบัติ มันจะกลับด้านของมันเอง คือ

ใจหรือธาตุรู้ที่ไม่ปรุงแต่ง จะไม่คิด หรือ ปรุงแต่ง ไม่ปรากฏความเคลื่อนไหว ไม่มีอาการกระดุกกระดิก หรือ กระเพื่อมใด ๆ เลย เป็นความสงบ เงียบ สงัดเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติด้วยคุณสมบัติของธาตุรู้ของเขาเอง  

ไม่มีใครบังอาจไปปรุงแต่งหรือทำความพยายามอย่างใด ๆ เพื่อให้เขาเป็นธรรมชาติที่เป็นวิสังขาร ที่ไม่อาจคิด หรือปรุงแต่งได้ เป็นธรรมชาติที่ว่างเปล่าจากตัวตน ว่างเปล่าจากความปรุงแต่ง หรือ ว่างเปล่าจากกริยาอาการ  

เป็นความสงบ … เงียบ … สงัด … สันติอย่างยั่งยืนเป็นปกติธรรมชาติของเขาเอง

เขาไม่มีสิ่งใดปรากฏให้ยึดติดยึดถือได้ และ

เขาไม่มีตัวตน จึงไม่ใช่เป็นเรา เป็นตัวเรา หรือเป็นของเรา

เขาจึงเป็นธาตุรู้ หรือ เป็นธรรมธาตุที่เป็นอิสระ

ไม่ต้องพึ่งพาความรู้จากที่ใด ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่แตกทำลาย ไม่มีการตาย ไม่มีการไป ไม่มีการมา

จะเอาเขาไปคิดหรือปรุงแต่งยึดติดยึดถือก็ไม่ได้ เพราะเขาเป็นวิสังขาร คือ เป็นธรรมชาติ หรือ ธรรมธาตุ ที่ได้แต่

แค่รู้ซื่อ ๆ หรือ สักแต่ว่ารู้เท่านั้น ไม่มีตัวตน ไม่อาจคิดหรือปรุงแต่ง จึงไม่อาจมีกริยาอาการที่ยึดติดยึดถือ และ

ไม่อาจทำกริยาอาการปล่อยวางได้

ซึ่งแต่เดิมฝึกสติ สมาธิ ปัญญาในขันธ์ห้า คือ เพียรมีสติ รู้ ละ ปล่อย วาง

จนพบ “ใจ” (วิสังขาร) ซึ่งเป็นธาตุรู้ หรือ ธรรมธาตุที่ไม่สังขาร ไม่มีตัวตน ไม่มีรูปร่าง ไม่มีตัวจิต ตัวใจ

เป็นความรู้แจ้งในสัจธรรม (ความจริงของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ) รู้สิ้นหลง รู้ตื่น รู้เบิกบาน

เป็นธาตุรู้ที่ว่างเปล่าเหมือนดังความว่างของธรรมชาติหรือจักรวาล แทรกซึมอยู่ในธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ (ความว่าง)

*** “ธาตุรู้” ไม่ใช่ความว่าง (อากาศ)

แต่อยู่รวมกับความว่าง จึงรู้จักความว่าง

รู้จักว่าอะไรเป็นสังขาร

รู้จักว่าอะไรเป็นวิสังขาร

แต่ก็ได้แต่รู้เท่านั้น

ไม่อาจยึดติดยึดถือใจ หรือ จิตเดิมแท้ หรือ ธาตุรู้ หรือ ธรรมธาตุ ว่า เราหรือตัวเราเป็นคนรู้ หรือ ผู้รู้เป็นเรา ตัวเรา หรือ ของเรา ได้

 

 

ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562

Tweet
  • Social sharing:
  • Add to Facebook
  • Add to Delicious
  • Digg this
  • Add to StumbleUpon
  • Add to Technorati
  • Add to Reddit
  • Add to MySpace
  • Like this? Tweet it to your followers!

Related items

  • 240909A-4 หยุดคิดและดิ้นรนค้นหา จะพบความจริง
  • 240909A-3 จุดเริ่มกับจุดจบคือจุดเดียวกัน
  • 240909A-2 ยอมรับธรรมชาติตามความเป็นจริง
  • 240909A-1 ปัจจุบันขณะยึดอะไรไม่ได้
  • 250307B-4 อวิชชาในผู้รู้
More in this category: « The return to innocence กลับคืนสู่ … “ความบริสุทธิ์” (เหมือนเด็กไร้เดียงสา) »
back to top

Search

ปุจฉาวิสัชนา Archive

  • ปุจฉา-วิสัชนา 2560
    • พฤษภาคม 60
    • มิถุนายน 60
    • กรกฎาคม 60
    • สิงหาคม 60
    • กันยายน 60
    • ตุลาคม 60
    • พฤศจิกายน 60
    • ธันวาคม 60
  • ปุจฉา-วิสัชนา 2561
    • มกราคม 61
    • กุมภาพันธ์ 61
    • มีนาคม 61
    • เมษายน 61
    • พฤษภาคม 61
    • มิถุนายน 61
    • กรกฎาคม 61
    • สิงหาคม 61
    • กันยายน 61
    • ตุลาคม 61
    • พฤศจิกายน 61
    • ธันวาคม 61
  • ปุจฉา-วิสัชนา 2562
    • มกราคม 62
    • กุมภาพันธ์ 62
    • มีนาคม 62
    • เมษายน 62
    • พฤษภาคม 62
    • มิถุนายน 62
    • กรกฎาคม 62
    • สิงหาคม 62
    • กันยายน 62
    • ตุลาคม 62
    • พฤศจิกายน 62
    • ธันวาคม 62
  • ปุจฉา-วิสัชนา 2563
    • มกราคม 63
    • กุมภาพันธ์ 63
    • มีนาคม 63
    • เมษายน 63
    • พฤษภาคม 63
    • มิถุนายน 63
    • กรกฎาคม 63
    • สิงหาคม 63
    • กันยายน 63
    • ตุลาคม 63
    • พฤศจิกายน 63
    • ธันวาคม 63
  • ปุจฉา-วิสัชนา 2564
    • มกราคม 64
    • กุมภาพันธ์ 64
    • มีนาคม 64
    • เมษายน 64
    • พฤษภาคม 64
    • มิถุนายน 64
    • กรกฎาคม 64
    • สิงหาคม 64
    • กันยายน 64
    • ตุลาคม 64
    • พฤศจิกายน 64
    • ธันวาคม 64
  • ปุจฉา-วิสัชนา 2565
    • มกราคม 65
    • กุมภาพันธ์ 65
    • มีนาคม 65
    • เมษายน 65
    • พฤษภาคม 65
    • มิถุนายน 65
    • กรกฎาคม 65
    • สิงหาคม 65
    • กันยายน 65
    • ตุลาคม 65
    • พฤศจิกายน 65
    • ธันวาคม 65
  • ปุจฉา-วิสัชนา 2566
    • มกราคม 66
    • กุมภาพันธ์ 66
    • มีนาคม 66
    • เมษายน 66
    • พฤษภาคม 66
    • มิถุนายน 66
    • กรกฎาคม 66
    • สิงหาคม 66
    • กันยายน 66

5BA01AEA 57EC 462B B6FB 90B6B03148ED

719CBB23 865C 4DF5 A1C8 222F752DCCBB

« May 2025 »
Mon Tue Wed Thu Fri Sat Sun
      1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31  

Facebook

เพจหลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย

บทถอนอธิษฐาน

  • บทถอนอธิษฐาน
Copyright © หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย 2025 All rights reserved.
เมษายน 62