ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ ผลจากการพิจารณากายติดต่อกันมา 10 วันย่างวันที่ 8 รู้สึกว่ามีสภาวะที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือพอมีผัสสะมากระทบก็รู้มันแต่ไม่ได้ไปเป็นมันแต่มารู้อยู่กับปัจจุบันขณะเจ้าค่ะ
พอมาวันนี้เดินจงกรมช่วงหัวค่ำโดยบริกรรมพุทโธไปพร้อมกับพิจารณากายไปน่าจะ 3 ชั่วโมงได้เจ้าค่ะ ถึงจุดที่กระดูกและชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ กระจายเต็มพื้นดิน กำลังพิจารณาอวัยวะต่างๆ อยู่ๆ ก็เห็นช่วงล่างของคนสวมสบงเก่ามากๆ ไม่เห็นช่วงบนถือไม้เท้าที่ทำด้วยไม้กลมๆ สีน้ำตาลเข้มเก่าๆ มาเขี่ยลำไส้ที่กองอยู่แล้วมีเสียงว่า “ยังจะเห็นเป็นตัวตนอยู่หรือ” พอจบคำพูดก็เขี่ยลำไส้โยนทิ้งไปไกลเลยและใช้ไม้เท้าทุบกระดูกจนละเอียด เขี่ยอวัยวะจนเละเทะไปหมด
ในจิตก็ระวังที่หลวงตาห้ามไว้ไม่ให้หลงสภาวะตรงนี้ก็ได้แต่บริกรรมพุทโธๆๆ ไปเรื่อยๆ แต่ภาพไม่ยอมหยุดก็เลยปล่อยให้เขาแสดงไปสักพักอยู่ๆ ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ มากระทบจมูกภาพเหล่านั้นเลยหายไปเลยเจ้าค่ะหลวงตา
กราบเท้าหลวงตามาด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ
เรามีความเพียรต่อเนื่อง ธรรมเขาเลยมาปรากฏช่วยสอน เพราะเราพิจารณาเห็นตัวเราตายเน่าเปื่อยผุพังไม่ชัดเสียที
แต่เราเกิดความกลัว เร่งบริกรรมพุทโธเร็วขึ้น ไม่ได้น้อมพิจารณาตัวเราตายเน่าเปื่อยผุพังต่อเนื่องไปเลย ธรรมนิมิตจึงหายไป
ให้นำเอาภาพธรรมนิมิตนั้นมาน้อมพิจารณา พิจารณาว่าเราตายเน่าเปื่อยผุพังอย่างเดียวอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย โดยไม่ต้องบริกรรมพุทโธ
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563