ผู้ถาม : กราบเรียนหลวงตา
ไม่ค่อยสบายทีไร แค่จะหลับตา พระหลวงตาก็สอนได้แบบทันทีทันใด สอนอยู่ในทุกที่ทุกเวลา
พระหลวงตาว่า รู้ ไม่ยึด รู้ Search ความหมาย
หลวงตาบรรยายธรรมได้สุดยอดมากๆ เลยค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ
ก่อนหน้านี้ มีหลายอย่างเกิดขึ้น เรียบเรียงไม่ถูก เรียกชื่อต่างๆ ก็ไม่ค่อยจะถูกค่ะ
จิตอวิชชาพยายามจะรักษาทบทวน ความเข้าใจ แยกแยะ จากไม่มีและมีขึ้นมา (ต้นจิต) พยายาม ตั้งใจ จะทวนความเข้าใจทั้งหมด และประมวล ทบทวน เป็นไปเอง
สติ สำคัญที่สุด ขาดสติเป็นไม่ได้ ประมาทไม่ได้
มรรค จะฟันทุกครั้งที่เรียนรู้เสร็จ เปรียบเหมือนจะฟันต้นไม้ (ฟาด เปรี้ยง)
สิ่งถูกรู้ทั้งหมดที่เลิศเพียงใดล้วนเป็นสังขารเจ้าค่ะ
ปัจจุบันธรรม คือ ธรรมเอก
ปัญญาหนูน้อย โปรดเมตตาด้วยเจ้าค่ะ
หลวงตา : “ปัจจุบันธรรม” คือ ธรรมชาติฝ่ายสังขารเกิดเอง ดับเอง เกิดเอง ดับเอง ไม่มีผู้ทำเกิด ทำดับ หรือ ธรรมชาติปัจจุบันขณะ มีแต่สังขารเกิดดับในความไม่เกิดดับ
(จิตบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์ วิญญาณธาตุบริสุทธิ์ วิสังขาร อสังขตธาตุ ธรรมธาตุ สุญญตาธาตุ หรือ นิพพานธาตุ)
*****ธรรมชาติมีเพียงสังขาร และ วิสังขาร เพียงสองอย่างเท่านั้น ไม่มีเรา ตัวเรา ของเรา เป็นตัวตนคงที่ที่เป็นส่วนเกินธรรมชาติ เพราะความคิด หรือ ความรู้สึกเป็นเรา ตัวเรา ของเราทุกปัจจุบันขณะ เป็นธรรมชาติฝ่ายปรุงแต่ง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งเกิดดับ
เมื่อใจเข้าถึงธรรมชาติจริงแท้บริสุทธิ์แล้ว ก็จะไม่มีความหลงยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวเรา ของเรา คือ ไม่หลงยึดมั่นถือมั่นสังขาร (ขันธ์ห้า) และ จิตหรือใจบริสุทธิ์เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา แล้วจะไม่หลงมีตัวเราไปหลงยึดถือสิ่งอื่นใดมาเป็นของเรา
เมื่อสิ้นผู้เสวย หรือ สิ้นผู้ยึดถือ จึงสิ้นกิเลส พ้นทุกข์ (นิพพาน) เพราะมีแต่ สังขารเกิดดับในวิสังขาร ส่วนผู้ยึดถือไม่มี
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563