ผู้ถาม : กราบนมัสการค่ะหลวงตา
หลังจากฟังไฟล์เรื่อง ยึดปัญญาบังธรรมแท้ และวัฏจักร-ธรรมจักร 1-2 แล้ว พอตอนนั่งสมาธิ (กับพี่สาวทั้งสามคน ซึ่งทำเป็นประจำเกือบทุกวันค่ะ) มีคำตอบในสิ่งที่ติดอยู่ (คือไม่เห็นตัวเราตอนที่อยู่ในความรู้สึกเฉยๆ เหมือนไม่มีอารมณ์อื่นมาให้รับรู้) ขึ้นมาว่า คนที่ดูเป็นความรู้สึกที่ไม่มีตัวตนที่รับรู้ทางอายตนะได้ แต่เป็นความรู้แก่ใจเท่านั้นว่ามีสิ่งหนึ่งรู้อยู่ เพราะถ้าเริ่มค้นหาว่าใครเป็นผู้รู้ ตัวค้นหาก็จะเป็นสังขารทันที (จริงๆ คำตอบมันเหมือนเป็นความเข้าใจ แต่มาเขียนอธิบายอีกทีนึงแบบนี้ค่ะ)
ขอความเมตตาหลวงตาอธิบายเพิ่มเติมให้ฟังด้วยค่ะ อารมณ์ที่โยมเห็นแบบนี้คือ อทุกขมสุขเวทนา หรือไปจับความว่างคะ
โยมเห็นตัวบงการ และตัวพยายามทำความเข้าใจธรรมะ แต่ตอนนี้โยมมีความรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แค่เห็นเป็นสังขารแค่นั้น พอรู้ทันเขาก็จะดับไปแว็บนึงแล้วเดี๋ยวก็มาใหม่อีก มาอีกก็รู้อีกเท่าที่รู้ได้ และชอบประโยคที่หลวงตาบอก รู้ไม่ทันก็โง่ แต่ถ้ารู้ทันก็หายโง่ มันก็จะสลับกันไปมาอย่างนี้ อีกหน่อยความโง่มันก็น้อยลง
ส่วนเรื่องวัฏจักร-ธรรมจักร ตอนฟังไปก็ตอบไปเลยค่ะว่าขอเลือกธรรมจักรค่ะ โอกาสทองแบบนี้ขอตามแรงเหวี่ยงธรรมจักรไปด้วยค่ะ พอแล้วกับวัฏจักรที่ต้องพาให้มีความทุกข์นับภพนับชาติไม่ถ้วน และเหมือนอยู่ในวังวนของความมืด หมุนไปเท่าไหร่ก็หาความสว่างไม่เจออีกนานแสนนาน
กราบนมัสการและกราบขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงตาอย่างสูงค่ะ
หลวงตา : ไม่ว่าเราจะมีอาการหรือสภาวะอย่างไร ให้รู้เรา ไม่ใช่เอาเราไปรู้
ถ้าเป็น “รู้เรา” ก็จะรู้เราตามความเป็นจริงในปัจจุบันขณะ ไม่ว่าจิตจะคิดปรุงแต่งอย่างไร หรือมีสภาวะธรรมอย่างใดๆ จึงไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะได้แต่รู้ตามความเป็นจริง
****ไม่ใช่เอาเราไปรู้ แต่รู้เรา
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563