ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะหลวงตา เมื่อวานได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับแม่ชีเบญอยู่ 2 ชั่วโมงกว่า
มันชัดเจนในการใช้ชีวิตมากขึ้นเจ้าค่ะ รวมถึงสภาพของการเป็นนักบวชด้วย ทุกวันนี้มันรู้แก่ใจอยู่ว่าลึก ๆ ใจมันจะเลือกแบบไหนถ้ามีโอกาส
เมื่อก่อนเวลาที่มีคนพูดหรือสัมผัสถึงธรรมที่ลึกซึ้ง ถึงที่สุดหรือนิพพาน หรือสิ้นภพชาติ มันร้องไห้ตลอด
แต่ทุกวันนี้ร้องไห้เรื่องนั้นน้อยลงแล้ว แต่กลับร้องไห้ออกจากลึก ๆ ข้างในจริง ๆ แบบที่มันไม่ได้คิดอะไรเลย คือ เวลาที่มีคนพูดถึง ความสงบ และการสู้เพื่อธรรมในเพศของนักบวช เวลาฟังประวัติพ่อแม่ครูอาจารย์ หรือแม้แต่มีคนมา lecture ของมจร. ว่าเขาบวชกับสายหลวงพ่อชาที่อังกฤษ ซึ่งชีวิตพระมันไม่ง่าย และต้องขัดเกลาอย่างหนัก มันแทบจะร้องไห้กลางชั้นเรียนเลย
ไม่รู้มันเป็นยังไงเจ้าค่ะ ทั้งที่ใจมันเป็นแบบนี้ แต่หน้าที่ทางโลก งานทางโลก มันยิ่งรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ และ แทบจะไม่มีอะไรหนักอกหนักใจแล้ว เกิดอะไรขึ้นก็ตัดสิน ก็ทำไปตามธรรม มันอยู่โลกง่ายมาก และไม่ทุกข์อะไรมากเลย แต่ของที่รุ่งเรืองรุ่งโรจน์นั้นมันไม่ได้ติดอยู่ในใจแบบเมื่อก่อน ถ้าเลือกได้ ถ้ามันมีโอกาสเลือก มันพร้อมจะทิ้งสิ่งนั้น มันเลือกที่จะ "ไม่เอา" ไปเอง แต่ถ้าสิ่งนั้นจะยังอยู่ มันก็มีก็ได้ ทำหน้าที่ดูแลก็ได้ ไม่เป็นไร
ตอนนี้โดยส่วนใหญ่เป็นแบบนี้เจ้าค่ะ
แต่บางครั้ง มันก็เหมือน "หลุด" เลย คือ ไม่มี ไม่เป็นอะไรเลย ซึ่งตอนนั้นมันไร้คำถาม ไร้คำตอบไปเอง เจ้าค่ะ สักพักก็เป็นแบบที่เล่าไป สลับกันใหม่ เลยกราบเรียนหลวงตาเจ้าค่ะ
หลวงตา : อธิษฐานถอนไม่ขาด และ ขอขมาไม่ขาด ให้สิ้นความสิ้นอาลัย ไม่กลับคืน (อนาลโย หรือ ขีณาลโย)
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563