ผู้ถาม : น้อมกราบนมัสการองค์หลวงตาพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เคารพสูงสุด
เห็นร่างตัวเองนอนราบ ไม่หายใจ
- กรีดรอบใบหน้า ดึงหนังออกโยนทิ้ง ดึงเนื้อออกโยนทิ้ง
ดึงเส้นเอ็นขาว ขนตา ขนคิ้ว โยนทิ้ง
ดึงเส้นเลือด น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำตา น้ำมูก ใส่ธาตุน้ำในถังเดียวกัน
ควักลูกตาทั้ง 2 ออกมาโยนทิ้ง
เห็นกระดูกตาโบ๋ กระดูกจมูกโบ๋
กระดูกขากรรไกรและฟันแถวบนล่าง
น้ำตาไหลพราก ๆๆ สลดใจยิ่งนัก
เห็นแต่ความไม่งาม ไม่เที่ยง
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
- กรีดรอบศรีษะ ดึงเส้นผมออกโยนทิ้ง ดึงหนังออกโยนทิ้ง ควักสมองออกทิ้ง
เห็นกะโหลกเจือปนเลือดแดง
- กรีดรอบลำคอดึงหนังทิ้ง เนื้อทิ้ง
เส้นเอ็น เส้นเลือด น้ำเหลือง ใส่ถัง
- กรีดรอบลำตัวดึงหนัง เนื้อ เอ็น
หัวใจ ม้าม ตับ ปอด ไต ไส้เล็ก
ไส้ใหญ่ อาหารเก่า อาหารใหม่
โยนทุกชิ้นส่วนลงดิน ยกเว้น กระดูกและชิ้นส่วนน้ำในถัง
- ดึงหนังจากโคนแขนจนถึงปลายนิ้วมือออกโยนทิ้ง ดึงเนื้อ เลือด เอ็นออกทิ้ง
- ดึงหนังตั้งแต่โคนขาจนถึงปลายนิ้วเท้าออกทิ้ง ดึงเนื้อ เส้นเลือด เอ็น ออกทิ้ง
ชิ้นส่วนที่กองบนดินเน่าสลายกลายเป็นดิน
ชิ้นส่วนในถังระเหยเป็นไอน้ำกลับลงมาเป็นน้ำฝน
จุดไฟเผากระดูกทุกส่วนรวมกันจนไหม้วอด
ไฟดับสนิทแล้ว มีลมพายุพัดพากระดูกที่เผาแล้วกระจัดกระจายไปหลายทิศทาง
ดินกลับสู่ดิน น้ำกลับสู่น้ำ
ลมกลับสู่ลม ไฟกลับสู่ไฟ
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
กราบ กราบ กราบแทบเท้าหลวงตาที่สอนสั่งเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ ให้มีศรัทธา ความเพียร สติ สมาธิ ปัญญา และ ขันติ ในการรู้เห็นสัจธรรมความจริงเช่นนั้นแหละ ! อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ถึงแม้ในช่วงที่สัจธรรมยังไม่รู้แจ้งถึงใจจริง ๆ โดยยังเป็นแค่ความรู้สึกอันเกิดจากความคิดเอา แต่ถ้าไม่ละความเพียรอย่างต่อเนื่อง ใจก็จะค่อย ๆ ปลงปล่อยวางความหลงยึดมั่นถือมั่นไปทีละน้อย ๆๆๆ..... จนหมดสิ้น แล้วก็จะสิ้นสงสัย แจ้งประจักษ์แก่ใจโดยไม่ต้องถามใครอีกต่อไป
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563