ผู้ถาม : กราบนมัสการองค์หลวงตาเจ้าค่ะ
หลังจากกลับจากปัญจคีรีวันที่ 10 ที่ผ่านมา หนูก็เดินจงกรมคืนนั้นเลยถึงตีสองครึ่ง ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง (ขณะนั้นหนูได้กลิ่นดอกไม้หอมนั้นอีก) และการพิจารณาอสุภะก็ชัดเจนขึ้นค่ะ (หนูเห็นความแตกต่างระหว่างการไม่สำรวมอินทรีย์กับการสำรวมอินทรีย์) เกิดผลต่อการปฏิบัติอย่างไร
แต่ก็ต้องขอบคุณบุคคลแวดล้อมที่เป็นครูสอนหนู ผนวกกับนิสัยส่วนตัวที่เกรงใจคนอื่นมากไปอาจทำให้งานเสีย มีบทเรียนมาก็หลายครั้งในชีวิตแต่ก็ไม่ยอมเข็ดหลาบ ต่อไปนี้หนูจะไม่ยอมให้นิสัยสันดานเดิมมาทำแบบนี้อีก ควรจะเดินสายกลางค่ะหลวงตา 3 วันที่กัดติดจดจ่อถึงตีสามตีสี่กับการพิจารณาอสุภะ ขณะนี้เป็นแบบนี้ค่ะ
เดินจงกรมไปในมโนนึก สามารถพิจารณาอสุภะตั้งแต่ศีรษะถึงเท้า เริ่มตั้งแต่ผมหลุด ลอกหนังออก เนื้อ เครื่องในหลุดออกหมดกองหายไป พิจารณากระดูกมีเลือดติดสดๆ และแห้ง พิจารณากระดูกตั้งแต่กะโหลกศีรษะเห็นรูพรุนเล็กๆ ในกระดูก เมื่อพิจารณากระดูกทั้งหมดแล้วมันจะเริ่มแตกร้าวไล่ไปทั่วทั้งร่างกาย และแตกละเอียดทั้งหมดหายไปในอากาศ มันก็จะเกิดสภาวะที่เล่าให้หลวงตาฟังว่าที่มีอยู่ตรงนี้มันไม่มี แต่ที่ไม่มีมันมีเต็มไปหมด มันเห็นหมดเลยและก็มีเสียงหลวงตามาพูดว่าอย่าหลงตรงนี้นะให้พิจารณาต่อไป
ขณะพิจารณาอสุภะไป จิตมันก็จะคิดแวบออกไป ก็ปล่อยให้จิตมันคิดไป บางครั้งเผลอไปก็ดึงกลับมาพิจารณาต่อ มันจะรู้เห็นจิตเร็วมาก แต่ถ้าสนทนากับคนอื่นหรือทำงาน การพิจารณามันจะเห็นชัดแค่จุดเดียวคือศีรษะ ตรงลูกตาจะมีหนอนชอนไชเห็นเยื่อที่หนอนกินไหลออกมา ตรงนี้จะชัด บางขณะได้ยินเสียงปุดๆ ของเนื้อเน่าที่หนอนกิน แต่ถ้าจิตคิดไปอีกมันจะกลับมาตรงนี้เร็วมาก ถ้าจิตมันอยากคิดก็ปล่อยมันคิด ช่างมันค่ะ
วันนี้ฟังไฟล์เสียงของหมอจุ๋งจิ๋งเรื่องเหตุเกิดตทังควิมุตติเข้าใจชัดเจนดี พิจารณาอสุภะในมโนนึกไปเฉพาะศีรษะชัดเจนและทำงานไปด้วยไม่ผิดพลาด (มันดีค่ะหลวงตา)
การดึงภาพให้มันช้าลงนั้นค่อนข้างยากมันคอยจะไปเร็ว หลวงตามีอะไรจะแนะนำหนูบ้างคะ เพราะถ้ายื้อๆ ให้ช้า ในมโนนึกมันเหมือนเด็กแย่งของกันแล้วของจะขาดออกจากกันค่ะ แต่ก็พิจารณาต่อได้แต่ต้องสู้กันหน่อยค่ะ
กราบขอส่งการบ้านหลวงตามาด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งค่ะ
หนูเข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมหลวงตาถึงบอกว่าพิจารณาทั้งคืนตั้งแต่ศีรษะถึงปลายเท้าได้รอบเดียว เพราะถ้าพิจารณาจบเร็วพอเริ่มรอบที่สองมันจะอืดๆ และเริ่มเบื่อ ไม่สนุกเหมือนพิจารณาครั้งเดียวช้าๆ ใช่ไหมเจ้าคะหลวงตา
กราบแทบเท้าหลวงตา สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ อย่างนั้นแหละถูกแล้ว เพียรให้ต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563