ผู้ถาม : หลวงตาเจ้าคะ ที่หลวงตาส่งข้อธรรมของหลวงปู่จวนกับหลวงตามหาบัวเมื่อวานนี้
หลวงปู่จวนท่านกล่าวว่า ฐีติจิต เป็นจิตที่ประภัสสร แจ้งสว่าง
หลวงตามหาบัว ท่านกล่าวว่า ประภัสสรหมายถึง ผ่องใส
แต่น่าจะเป็นความหมายเดียวกันใช่ไหมเจ้าคะ
แต่หลวงตามหาบัวท่านได้กล่าวเพิ่มว่า "ความผ่องใสนั้นแลเป็นอวิชชา"
นั่นหมายความว่าฐีติจิตยังไม่ใช่นิพพานใช่ไหมเจ้าคะหลวงตา
กราบขอหลวงตาโปรดเมตตาด้วยเจ้าค่ะ
หลวงตา : “ฐีติจิต” คือ จิตดั้งเดิมตั้งแต่มีจิตเกิดขึ้นมาในจักรวาลพร้อมกับอวิชชา คือ ความหลงยึดถือตัวมันเอง ว่าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นตัวตนของเรา เป็นของของเรา
เพราะความไม่รู้สัจธรรมความจริง (อวิชชา) หรือ ไม่รู้จักว่า “จิตเดิมแท้” หรือ ธาตุรู้บริสุทธิ์ (ไม่มีอวิชชา) ไม่ใช่ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ ไม่ใช่อรูปฌาน
เป็นวิสังขาร อสังขตธาตุ อสังขตธรรม เป็นสุญญตา
ไม่มีตัวตนรูปลักษณ์ ไม่มีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ใด
ไม่อาจมีความรู้สึก นึก คิด ตรึกตรอง ปรุงแต่งได้
ไม่เกิดดับ
ไม่อาจถูกรู้ได้ทางอายตนะภายใน
***** ไม่มี “สังขาร” ผสมปนอยู่เลยแม้น้อยหนึ่ง นิดหนึ่ง ปรมาณูหนึ่ง
ส่วน “อวิชชา” ที่ติดมากับจิตดั้งเดิม เป็น “สังขาร” คือ ความปรุงแต่งหลงยึดถือจิตดั้งเดิม หรือ ฐีติจิต ว่าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นตัวตนของเรา เป็นของของเรา
***** ครั้นเกิดปัญญาวิมุติ รู้แจ้งความจริงดังกล่าวขึ้นมาในขณะจิตใด ก็จะถอนความหลงผิด (อวิชชาดับ) ที่ติดมากับฐีติจิต หรือ จิตดั้งเดิมจนหมดสิ้น เหลือแต่ฐีติจิตบริสุทธิ์ มีชื่อสมมติว่า “นิพพาน” หรือ “นิพพานธาตุ”
ดังนั้น จิตดั้งเดิม หรือ ฐีติจิต แม้จะเป็นประภัสสร เปรียบเหมือนกับแร่ทองคำ แต่ก็ไม่ได้บริสุทธิ์มาตั้งแต่แรก ครั้นเอาสิ่งเจือปนออก ได้แก่ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ส่วนที่เหลือจึงเป็นธาตุบริสุทธิ์
ตราบใดถ้ายังมีความหลงคิดปรุงแต่งว่า มีเราเป็นตัวตน (ไม่เห็นว่าเป็นสมมติ) ก็ยังไม่พ้นทุกข์ (ไม่นิพพาน) เพราะจะมีตัวเรามีกิเลส หรือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
แล้วจะหลงมีเราเป็นตัวตนดิ้นรนทะยานอยาก เพื่อให้ตัวเราได้สมใจอยาก เมื่อยังไม่สมใจอยากเสียที ความทุกข์ก็ยังไม่สิ้น
ไม่ใช่หลงมีเราเป็นตัวตนดิ้นรนไปจนพบนิพพาน (พ้นทุกข์)
แต่จะพ้นทุกข์ เพราะสิ้นหลงยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของของเราที่ติดมากับจิตดั้งเดิม จิตดั้งเดิมจึงจะบริสุทธิ์ เป็นนิพพานธาตุ
แต่ถ้ายังหลงยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของของเรา แม้จะดิ้นรนทะยานอยากอย่างแรงกล้าเท่าใด ก็จะหลงเอาตัวเราดิ้นรนพยายามกระทำอะไร เพื่อ ให้ตัวเราได้รับผลประโยชน์ เช่น พ้นทุกข์
แต่ตราบใดถ้ายังมีอวิชชา หลงยึดถือเป็นเรา ตัวเรา ของเราอยู่ จิตก็จะยังไม่บริสุทธิ์ หรือ ยังไม่นิพพาน
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563