ผู้ถาม : ผมมาพิจารณาดูแล้วครับ ตอนนี้ผมติดตรงที่ธาตุรู้ที่ยังมีอวิชชา
เมื่อรูป + ตา + จักษุวิญญาณ เกิดผัสสะ เกิดเวทนา เมื่อเกิดสุขก็อยากดึงไว้ เมื่อเกิดทุกข์ก็อยากผลักไส ผู้ที่ผลักไสและอยากดึงไว้ นี่คือ ธาตุรู้ที่ยังมีอวิชชาใช่ไหมครับ
ถ้าใช่แสดงว่า ในธาตุรู้ก็มีความอยากดึงไว้กับอยากผลักไส งงตรงนี้หละครับ
ขอความเมตตาและกราบขอบพระคุณหลวงตาอย่างสูงนะครับ กุศลและบารมีที่ลูกสร้างมาขอยกถวายหลวงตา และทีมงานทุก ๆ ท่านนะครับ สาธุ ๆๆ ครับ
ขอถามอีกนิดนะครับ ธาตุรู้ที่ไม่สิ้นอวิชชาปฏิสนธิวิญญาณแล้วรวมกับธาตุสี่เป็นขันธ์ห้า ผมขออุปมาธาตุรู้ที่ยังไม่สิ้นอวิชชาเป็นกระจก เมื่อปฏิสนธิวิญญาณรวมกับธาตุสี่เป็นขันธ์ห้า ขันธ์ห้านี้อาศัยกระจกคือธาตุรู้ที่ไม่สิ้นอวิชชา เป็นตัวทำหน้าที่รู้ เริ่มต้นจากตา + รูป + จักษุวิญญาณ + ผัสสะ
ตอนผัสสะนี้ส่งต่อไปถึงธาตุรู้ที่ไม่สิ้นอวิชชา แล้วธาตุความรู้จากธาตุรู้รู้ที่ไม่สิ้นอวิชชารู้ว่าเป็นรูป เสร็จแล้ววิญญาณเข้าไปรู้ความรู้จากกระจก (ธาตุรู้ที่ไม่สิ้นอวิชชา) จึงเข้าสู่กระบวนการปรุงแต่งของขันธ์ห้า คือเกิดเวทนา ตัณหา อุปาทาน อย่างนี้ถูกต้องไหมครับ ธาตุรู้ที่ไม่สิ้นอวิชชานี้เขารู้ทุกสิ่ง แต่ไม่ปรุงแต่ง แต่สิ่งที่ปรุงแต่งคือขันธ์ห้า เหมือนเงาของผีเสื้อที่หลวงตาเคยอุปมาอุปมัยครับ
กราบขอบพระคุณในความเมตตาอย่างสูงครับ ธรรมะที่รู้นี้ผมก็จะนำไปบอกต่อกับพระที่เป็นเพื่อนกัน และญาติธรรมที่ผมรู้จัก ผมจะช่วยหลวงตาจุดแสงสว่างแห่งธรรมให้แก่ทุกท่านที่ผมรู้จักและสามารถรับได้ครับ
หลวงตา : ขันธ์ห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (รู้ตามอายตนะ) เป็นสังขารฝ่ายปรุงแต่งตามธรรมชาติ ซึ่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ ปุถุชน มีเหมือนกัน เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ธาตุรู้ (มีอวิชชา) เป็นสังขาร ปรุงแต่งยึดถือขันธ์ห้าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา
ส่วนนี้ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และ พระอรหันต์ไม่มีแล้ว คงมีแต่ปุถุชน
ธาตุรู้ (ไม่มีอวิชชา) เป็นวิสังขาร อสังขตธาตุ อสังขตธรรม นิพพานธาตุ
จะสักแต่ว่ารู้ คือ ไม่ยึดถือขันธ์ห้าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา จึงไม่มีตัวเราไปหลงยึดถือรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ หรือ ยึดถือเขา หรือ ยึดถือสิ่งอื่นใดให้เป็นทุกข์ เป็นภพ ชาติ ชรา มรณะ
เป็นธรรมชาติไม่ปรุงแต่ง หรือ ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง ไม่มีตัวตนรูปลักษณ์ ไม่เกิดดับ จึงพ้นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
มีชื่อสมมติ เช่น จิตบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์ ธาตุรู้บริสุทธิ์ นิพพาน เป็นต้น มีเฉพาะในพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และ พระอรหันต์ เท่านั้น
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563