ผู้ถาม : หนูอ่านบทธรรมข้างบนขององค์หลวงปู่ชา แล้วรู้สึกเข้าใจถึงใจมากเจ้าค่ะ หายสงสัยแล้วและ ขอทำความเพียรต่อไปเจ้าค่ะหลวงตา
"นั้นคือที่สุดของ ‘ธรรมชาติ’ จากความไม่มี กลับคืนสู่ความไม่มี"
หนูพึ่งรู้แจ้งจากใจ คำ ๆ นี้ จากที่ได้ยิน ฟัง หลวงตาพูดบ่อย ๆ เจ้าค่ะ
"สุข ทุกข์...ฯ เกิดขึ้น เพราะมีสิ่งกระทบกัน
ทุกอย่างเกิดเพราะมีเหตุมีปัจจัย อาศัยกันเกิดตามธรรมชาติ" จริง ๆ เจ้าค่ะ
"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"
กราบสาธุเจ้าค่ะ
หลวงตา : “ทุกอย่างเกิดเพราะมีเหตุปัจจัยอาศัยกันเกิดตามธรรมชาติ”
“เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี หรือ เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด
เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี หรือ เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ”
(อิทัปปัจจยตา หรือ ปฏิจจสมุปบาท)
เมื่อเหตุหรือปัจจัยยังมีอยู่ การเกิดย่อมยังมีอยู่
เมื่อสิ้นเหตุหรือปัจจัย การเกิดอีกย่อมไม่มี
ทุกสรรพสิ่ง เกิดจากความไม่มี แล้วก็ดับกลับคืนสู่ความไม่มี
“อวิชชา ปัจจยา สังขารา สังขารา ปัจจยา วิญญาณัง......ฯลฯ”
เพราะความไม่รู้ (อวิชชา )เป็นปัจจัย จึงหลงสังขาร เพราะหลงสังขารเป็นปัจจัย จึงทำให้เกิดวิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ และความทุกข์ทั้งมวล
หรือ หลงปรุงแต่งยึดถือขันธ์ห้า หรือ ร่างกาย จิตใจเป็นตัวตนคงที่ เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา จึงทำให้เกิด..... ภพ ชาติ ชรามรณะ และความทุกข์ทั้งมวล
เพราะอวิชชาดับ สังขารจึงดับ สังขารดับ วิญญาณจึงดับ...... ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ และความทุกข์ทั้งมวลจึงดับพร้อม
ผู้ถาม : กราบเจ้าค่ะหลวงตา ถ้าพิจารณา สายเกิด สายดับ ของอิทัปปัจจยตา มันถึงใจได้จริง ๆ เจ้าค่ะ เหมือนใจมันรู้เองว่า ทุกอย่างเกิดเพราะ มีเหตุและปัจจัยอาศัยกันเกิด (ธรรมชาติ ) จริง ๆ ค่ะหลวงตา ไม่มีเราตรงไหนเลยเจ้าค่ะ
กราบสาธุ ๆๆ เจ้าค่ะ อยากกราบแทบเท้าองค์หลวงตาที่เมตตากรุณาหาที่สุดมิได้เจ้าค่ะ (ใจร้องไห้) ขณะนี้รู้สึกใจมันตื้นตันเจ้าค่ะ กราบสาธุเจ้าค่ะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2563