ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาครับ ถ้าเราเป็นฆราวาสและยังต้องปฏิบัติงาน หรือยังต้องดูแลครอบครัว บิดามารดา ทรัพย์สินโดยชอบ ฯลฯ และในมรรคมีองค์ 8 เรื่องสัมมาอาชีวะ ที่เป็นเรื่องศีลที่พึงปฏิบัติอยู่ เราจะจัดการกับจิต "ผู้เสวย" ที่ยังต้อง *เอา * ได้ * เป็น อย่างไรครับ เช่น เอาสัมมาทิฏฐิหรือสัมมาสติมากำกับอย่างไร จึงจะพอดี หรือสิ้นการยึดมั่นได้ครับ สาธุครับ คล้าย ๆ กับน้องนิมเคยบอกว่ารักได้แต่ไม่ผูกใช่ไหมครับ
หลวงตา : อริยมรรค ให้ประกอบอาชีพชอบได้ (สัมมาอาชีโว) มีได้ รักได้ แต่ไม่ผูกไม่ยึด คือไม่เอามายึดถือไว้ในใจ ก็ไม่มีกิเลสและความทุกข์ ต้องเอามายึดถือไว้ในใจ จึงจะเป็นกิเลสและความทุกข์
จะไม่ยึดถือได้ ต้องเห็นว่าทั้งตัวเราและสิ่งที่มี ล้วนแต่เป็นเพียงสิ่งสมมติ คือไม่คงทนอยู่จริง เป็นของไม่เที่ยง ไม่อาจจะยึดถือเอาไว้ได้จริง เป็นของยืมธรรมชาติเขามาใช้ชั่วคราว แล้วธรรมชาติเขาก็ทวงคืนอยู่เรื่อย ๆ โดยแสดงให้เห็นความไม่เที่ยง ไปสู่ความแก่ ความเจ็บป่วย เป็นคนไข้ติดเตียง ความตาย ความพลัดพราก ต้องคืนธรรมชาติเขาไป ไม่อาจมีใครขัดขืนได้ เกิดก็เพื่อตาย มีก็เพื่อจาก พบกันก็เพื่อพลัดพราก หากทำใจยอมรับตามความเป็นจริงอย่างนี้ได้ ถึงจะมีความสามารถในการแสวงหามาได้เท่าใด จะมีมากเท่าใด ใจก็พร้อมที่จะจากหรือพลัดพรากไป
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560